ประวัติเทศกาลไหว้บ๊ะจ่าง
สำหรับเทศกาลไหว้บ๊ะจ่าง
(端午节 ตวนอู่เจี๋ยหรือ เทศกาลตวงโหงว)
(端午节 ตวนอู่เจี๋ยหรือ เทศกาลตวงโหงว)
เป็นเทศกาลที่สืบทอดกันมาแต่โบราณของประเทศจีน
ตรงกับวันที่ 5 เดือน 5 ตามปฏิทินจีน (จันทรคติ) ของทุกปี ซึ่งปีนี้ตรงกับวันที่
2 มิถุนายน 2557 เพื่อเป็นการระลึกถึงวันที่ ชวีหยวน
ขุนนางผู้รักชาติแห่งแคว้นฉู่ นอกจากนี้ ในประเทศจีน บริเวณแม่น้ำฉางเจียน
(แยงซีเกียง), ฮ่องกง, ไต้หวัน, มาเก๊า ยังมีการละเล่นแข่งเรือมังกร
ที่เป็นการแข่งขันที่ยิ่งใหญ่ในเทศกาลไหว้บ๊ะจ่าง หรือ "ขนมจ้าง"
ตรงกับวันที่ 5 เดือน 5 ตามปฏิทินจีน (จันทรคติ) ของทุกปี ซึ่งปีนี้ตรงกับวันที่
2 มิถุนายน 2557 เพื่อเป็นการระลึกถึงวันที่ ชวีหยวน
ขุนนางผู้รักชาติแห่งแคว้นฉู่ นอกจากนี้ ในประเทศจีน บริเวณแม่น้ำฉางเจียน
(แยงซีเกียง), ฮ่องกง, ไต้หวัน, มาเก๊า ยังมีการละเล่นแข่งเรือมังกร
ที่เป็นการแข่งขันที่ยิ่งใหญ่ในเทศกาลไหว้บ๊ะจ่าง หรือ "ขนมจ้าง"
โดยความเป็นมาของเทศกาลไหว้บ๊ะจ่าง หรือขนมจ้าง
ตามตำนานเล่าว่า ในสมัยชุนชิว-จั้นกั๋ว ประเทศจีนถูกแบ่งเป็นแคว้นเล็ก ๆ จำนวนมาก
แคว้นฉินเป็นแคว้นที่เข้มแข็งที่สุดในขณะนั้น
ส่วนแคว้นฉู่เป็นแคว้นที่อ่อนแอและเล็ก ซึ่งมักถูกแคว้นฉินกดขี่ข่มเหง ชวีหยวน
ซึ่งเป็นขุนนางตงฉิน รับราชการด้วยความซื่อสัตย์สุจริต
ถือเอาประโยชน์ของราษฎรเป็นที่ตั้ง เขาห่วงใยประเทศชาติบ้านเมืองของตนมาก
จึงเสนอให้แคว้นฉู่ร่วมมือกับแคว้นฉีเพื่อต่อต้านแค้วนฉิน
แต่ก็ถูกขุนนางกังฉินคอยใส่ร้ายป้ายสีต่อองค์ฮ่องเต้เสมอ ๆ
จนฮ่องเต้เริ่มมีใจเอนเอียง
ชวีหยวนรู้สึกทุกข์ระทมตรมใจมาก จึงได้แต่งกลอนขึ้นเพื่อคลายความทุกข์ใจ
กลอนบทนั้นมีชื่อว่า "หลีเซา"
ที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับความห่วงใยบ้านเมืองและราษฎร
จนต่อมาฮ่องเต้แคว้นฉู่ถูกกลลวงของแคว้นฉิน และสวรรคตในแคว้นฉิน
รัชทายาทองค์ต่อมาจึงได้ขึ้นครองราชบัลลังก์แทน
หลังจากที่ฮ่องเต้องค์ใหม่ขึ้นครองราชย์
พระองค์ได้ทรงหลงเชื่อคำยุยงของเหล่าขุนนางกังฉินพวกนั้น
ในที่สุดจึงได้มีพระบรมราชโองการให้เนรเทศชวีหยวนออกจากแคว้นฉู่ไป
ชวีหยวนเศร้าโศกเสียใจมาก หลังจากเดินทางรอนแรมมาถึงแม่น้ำเปาะล่อกัง
(บางตำราว่าเป็นแม่น้ำแยงซีเกียง) ชวีหยวนจึงได้ตัดสินใจกระโดดน้ำตาย
เพื่อแสดงออกถึงความรู้สึกจงรักภักดีแต่ประเทศชาติและความคับแค้นใจที่มีต่อสังคม
ในวันขึ้น 5 ค่ำ เดือน 5 เมื่อ 278 ปีก่อนคริสต์ศักราช
พระองค์ได้ทรงหลงเชื่อคำยุยงของเหล่าขุนนางกังฉินพวกนั้น
ในที่สุดจึงได้มีพระบรมราชโองการให้เนรเทศชวีหยวนออกจากแคว้นฉู่ไป
ชวีหยวนเศร้าโศกเสียใจมาก หลังจากเดินทางรอนแรมมาถึงแม่น้ำเปาะล่อกัง
(บางตำราว่าเป็นแม่น้ำแยงซีเกียง) ชวีหยวนจึงได้ตัดสินใจกระโดดน้ำตาย
เพื่อแสดงออกถึงความรู้สึกจงรักภักดีแต่ประเทศชาติและความคับแค้นใจที่มีต่อสังคม
ในวันขึ้น 5 ค่ำ เดือน 5 เมื่อ 278 ปีก่อนคริสต์ศักราช
เมื่อชาวแคว้นฉู่รู้ข่าวการฆ่าตัวตายของชวีหยวน
ต่างพากันมายังริมแม่น้ำ ชาวประมงก็ออกพายเรือหาเพื่อหวังว่าจะงมเขาขึ้นมาได้
ในขณะที่ค้นหาศพ บางคนก็นำข้าวปั้น ไข่ต้มที่เตรียมไว้ให้ชวีหยวนโยนลงแม่น้ำ
เพื่อหวังว่าปลาปูกุ้งห้อยในน้ำจะกินอาหารพวกนี้แล้วไม่ไปกัดกินร่างของชวีหยวน
จากนั้นทุกปีเมื่อครบรอบวันตายของชวีหยวน
ชาวบ้านจะนำเอาอาหารไปโปรยลงแม่น้ำเปาะล่อกัง
เมื่อทำมาได้สองปี
ก็มีชาวบ้านผู้หนึ่งฝังเห็นชวีหยวนที่มาในชุดอันสวยงาม
และได้กล่าวขอบคุณชาวบ้านที่นำเอาอาหารไปโปรยเพื่อเซ่นไหว้
แต่ชวีหยวนบอกว่าอาหารเหล่านั้นได้ถูกสัตว์น้ำกินเสียจนหมด
เนื่องจากบริเวณนั้นมีสัตว์น้ำอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก ชวีหยวนจึงแนะนำให้นำอาหารเหล่านั้นห่อด้วยใบไผ่หรือใบจากก่อนนำไปโยนลงน้ำ
ก็มีชาวบ้านผู้หนึ่งฝังเห็นชวีหยวนที่มาในชุดอันสวยงาม
และได้กล่าวขอบคุณชาวบ้านที่นำเอาอาหารไปโปรยเพื่อเซ่นไหว้
แต่ชวีหยวนบอกว่าอาหารเหล่านั้นได้ถูกสัตว์น้ำกินเสียจนหมด
เนื่องจากบริเวณนั้นมีสัตว์น้ำอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก ชวีหยวนจึงแนะนำให้นำอาหารเหล่านั้นห่อด้วยใบไผ่หรือใบจากก่อนนำไปโยนลงน้ำ
ในปีต่อมาชาวบ้านต่างก็ทำตามที่ชวีหยวนแนะนำ
ชวีหยวนก็ได้มาเข้าฝันชาวบ้านอีกว่าได้กินมากหน่อย
แต่ก็ยังโดนสัตว์น้ำแย่งไปกินได้
ชาวบ้านต้องการให้ชวีหยวนได้กินอาหารที่พวกเขาเซ่นไหว้ไปให้อย่างอิ่มหนำสำราญ
จึงได้ถามชวีหยวนว่าควรทำเช่นไรดี
จึงได้คำแนะนำว่าเวลาที่จะนำอาหารไปโยนลงแม่น้ำให้ตกแต่งเรือเป็นรูปมังกร
เมื่อสัตว์น้ำทั้งหลายได้เห็นก็จะนึกว่าเป็นเครื่องเซ่นของพระยามังกร
จะได้ไม่กล้าเข้ามากิน จึงทำให้เป็นที่มาของประเพณีการไหว้ขนมจ้าง (ขนมบ๊ะจ่าง) และประเพณีการแข่งเรือมังกรมาจนถึงปัจจุบัน
การไหว้บ๊ะจ่าง
ส่วนการไหว้บ๊ะจ่างในปัจจุบัน
คนจีนจะไหว้ในตอนเช้า โดยไหว้ด้วยธูป 3 ดอก หรือ 5 ดอก การไหว้ด้วยธูป 5 ดอก
เพื่อระลึกถึงครูบาอาจารย์ พ่อแม่ และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ จะเข้าหลัก 5 ธาตุ หรือ
โหงวเฮ้ง ของจีน ประกอบด้วย ธาตุดิน ทอง น้ำ ไม้ และไฟ
ซึ่งมีส่วนเกี่ยวกับวิถีชีวิตโดยตรง และถ้าเป็นการไหว้ในไทย
ช่วงเช้าก็จะไหว้เจ้าและบรรพบุรุษ
แต่ที่พิเศษหน่อยก็ตรงที่มีบ๊ะจ่างเพิ่มเข้ามาด้วย
沒有留言:
張貼留言