2014年6月30日 星期一

臺大中國文學系 歐麗娟教授 紅樓夢.1 導論 I (Dream of the Red Chamber EP1)



http://www.cl.ntu.edu.tw/people/bio.php?PID=55

http://ocw.aca.ntu.edu.tw/ntu-ocw/index.php/ocw/cou/101S120

紅樓夢

中國文學系 歐麗娟

課程簡介

中文課程名稱:紅樓夢
英文課程名稱:Red Chamber Dreams
授課教師:歐麗娟
學分數:2學分
開課單位:中國文學系

課程概述

本課程以《紅樓夢》為範圍,區分為文化與人物論兩大範疇。在文化方面,由於《紅樓夢》吸納傳統中國文學與文化的涵蓋面甚廣,將涉及「神話運用與詮釋」、「讖語式的表達」、「悟道模式」、「遊仙模式」、「喜劇精神」、「母神崇拜」、「少女崇拜」、「大觀園之設計與用意」、「詩歌表現」等主題單元,以建立全書的歷史性縱深,以及這部小說的集大成內涵。

課程目標

為避免傳統紅學偏於單向度而扁平化,終以簡化∕極化的道德評價為歸趨的慣習,本課程將採取「情節聯繫的有機化」、「人物性格的豐富化」雙綰交涉的解讀方式,挖掘出學界一般忽略的情節做為內證,進行全面的比對與整合;也對一般視為不證自明的敘事過程重新審察,釐清其中之因果關係與發展脈絡,以呈現《紅樓夢》所開展的突破獨白型單一旋律的複調世界。讓近乎刻板印象(stereotype)的人物恢復其圓形人物(round character)的豐富內涵,包括林黛玉、賈寶玉、薛寶釵、四春、劉姥姥、晴雯、襲人等諸多角色,都是曹雪芹將種種個性客觀地發現、並加以藝術地表現的成果。透過這些人物論專題,希望可以提供較有創新性的詮釋,以及對這部巨作的深入了解。

課程要求

學生應先行閱讀《紅樓夢》原著前八十回,或至少配合教師要求章節閱讀,瞭解書中基本情節,俾使教師於課堂上講解整體概念時,能有效連結相關情節以為佐證,並能更深入體會《紅樓夢》一書中渾然一體的複調世界之美。
此外,課堂上應準時到課、應考,以完整吸收課程內容。

成績評量方式

皆以申論題為主,上下學期各一次
1. 期中考…………………………50% 
2. 期末考…………………………50% 

紅樓夢

中國文學系 歐麗娟

陳慶浩:《新編石頭記脂硯齋評語輯校(增訂本)》,臺北:聯經出版公司,1986.10。
一粟編:《紅樓夢卷》,臺北:新文豐出版公司,1989.10。
一粟編:《紅樓夢資料彙編》,北京:中華書局,2004.1。
馮其庸纂校訂定:《八家評批紅樓夢》,北京:文化藝術出版社,1991.9。
王國維等:《紅樓夢藝術論》,臺北:里仁書局,1994.12。
周策縱等:《曹雪芹與紅樓夢》,臺北:里仁書局,1985.1。
俞平伯:《俞平伯論紅樓夢》,上海:上海古籍出版社,1988.3。
蔣和森:《紅樓夢論稿》,北京:人民文學出版社,2008。
余英時:《紅樓夢的兩個世界》,臺北:聯經出版公司,1996.2。
梅新林:《紅樓夢的哲學精神》,上海:學林出版社,1997.4。
上海:華東師範大學出版社,2007.10。
宋淇:《紅樓夢識要──宋淇紅學論集》,北京:中國書店,2000.12。

太愚(王昆侖、松菁):《紅樓夢人物論》,眾多版本。
歐麗娟:《紅樓夢人物立體論》,臺北:里仁書局,2006.3。

蔡義江:《紅樓夢詩詞曲賦鑑賞》,北京:中華書局。
梁歸智:《紅樓夢詩詞韻語新賞》,北京:北京師範大學出版社,2010.10。
歐麗娟:《詩論紅樓夢》,臺北:里仁書局,2001.1。

關華山:《「紅樓夢」中的建築研究》,臺北:境與象出版社,1988.10。
關華山:《《紅樓夢》中的建築與園林》,天津:百花文藝出版社,2008.4。
黃雲皓:《圖解紅樓夢建築意象》,北京:中國建築工業出版社,2007.12。
徐扶明:《紅樓夢與戲曲比較研究》,上海:上海古籍出版社,1984。
王昆吾:《唐代酒令藝術》,上海:東方出版中心,1996。

〔英〕佛斯特(E. M. Forster)著,李文彬譯:《小說面面觀》(Aspects of the Novel),臺北:志文出版社,1995.12。
〔美〕浦安迪(Andrew H. Plaks):《中國敘事學》,北京:北京大學出版社,1996.3。
〔法〕米蘭‧昆德拉(Milan Kundera)著,尉遲秀譯:《小說的藝術》,臺北:皇冠文化出版公司,2004.3。

2014年6月22日 星期日

泰國警方查地下賭場2 สืบสน.วังทองหลางพร้อมทหารบุกจับบ่อนขนาดใหญ่ย่านเหม่งจ๋าย






泰國警方查地下賭場 ทหาร ตำรวจ และ พฐ เข้าตรวจสอบ บ่อนพนันนัมเบอร์วัน ในซอยสหการประมูล

















ทหารตำรวจพร้อมเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานเข้าตรวจสอบเก็บหลักฐานที่บ่อนการพนัน “นัมเบอร์วัน” ที่ถูกบุกจับวานนี้ ด้านเขตวังทองหลาง แจ้งผิด พ.ร.บ.กทม.ต่อเติมอาคารโดยไม่ได้รับอนุญาต
       
       เมื่อเวลา 10.00 น.วันนี้ (20 มิ.ย.) พ.ต.อ.สาโรช ซุ่นทรัพย์ รอง ผบก.น.4 พ.ต.อ.สรรค์หกิจ บํารุงสุขสวัสติ ผกก.สน.วังทองหลัง พร้อมด้วยตำรวจ สน.วังทองหลาง เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน ทหาร และเจ้าหน้าที่สำนักงานเขตวังทองหลาง กรุงเทพมหานคร เดินทางเข้าตรวจสอบบ่อน “นัมเบอร์วัน” เพื่อเก็บรวบรวมพยานหลักฐานอย่างละเอียดอีกครั้งหาความเชื่อมโยงผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้อง โดยใช้เวลาในการตรวจสอบประมาณ 2 ชั่วโมง
       
       หลังจากวานนี้ (19 มิ.ย.) เจ้าหน้าที่ตำรวจและทหารได้ผสานกำลังเข้าตรวจยึดอุปกรณ์การเล่นพนัน อาทิ โต๊ะบาคาร่า โต๊ะเล่นไพ่ออนไลน์จำนวนมาก และชิปแลกเงินภายในบ่อนนัมเบอร์วัน ซอยสหการประมูล ใกล้เคียงสถานทูตลาว แขวงและเขตวังทองหลาง หลังพบข้อมูลว่าบ่อนดังกล่าวมีการเตรียมพร้อมให้เปิดเล่นการพนัน พร้อมจับกุมพนักงานที่อยู่ด้านในเป็นชาวกัมพูชา 23 คน พม่า 2 คน และชาวไทยอีก 12 คน
       
       พ.ต.อ.สาโรชกล่าวว่า ในวันนี้เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานเดินทางเข้าตรวจสอบภายในบ่อนดังกล่าวเพื่อตรวจหารอยนิ้วมือแฝง อุปกรณ์การเล่นพนันทั้งหมด และสืบหาแหล่งที่มาของอุปกรณ์ ขณะนี้อยู่ระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐานทั้งหมด ส่วนแรงงานต่างด้าวที่ถูกจับกุมได้นั้นอยู่ระหว่างการสอบปากคำ
       
       น.ส.ฐานิตา แพร่วานิชย์ ผู้อำนวยการสำนักเขตวังทองหลาง เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่าบ่อนดังกล่าวได้จดทะเบียนเป็นสนามไดรฟ์กอล์ฟในนามบริษัท นัมเบอร์วัน ตั้งแต่ปี 2540 โดยไม่มีการแจ้งขอต่อเติมอาคาร ถือว่ามีความผิดตาม พ.ร.บ.กรุงเทพมหานครด้วย
       
       ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ส่วนผู้ครอบครองอาคารดังกล่าวเจ้าหน้าที่อยู่ในระหว่างตรวจสอบเอกสาร โดยหลังจากนี้เจ้าหน้าที่จะตรวจสอบว่าผู้ใดเป็นเจ้าของอาคารหลังนี้ เพื่อเรียกมาสอบสวนชี้แจงข้อเท็จจริงต่อไป

泰國警方破電話詐騙集團 ข่าว สน. สืบ 5 จับแก๊งค์คอลเซนเตอร์ชาวไต้หวัน





บุกรวบแก๊งคอลฯ จีน6ไต้หวัน3พม่า3 เช่าคอนโดในกรุง ตุ๋นเพื่อนร่วมชาติ

สืบ 5 ร่วมฝ่ายสืบสวน สน.คลองตัน บุกรวบแก๊งคอลเซ็นเตอร์ชาวจีน-ไต้หวัน-พม่า 12 คน เช่าคอนโดมิเนียมในซอยเอกมัย 10 แล้วโทรศัพท์กลับไปหลอกเพื่อนร่วมชาติ รอง ผบ.ตร.เผย เร่งประสานทั้ง 2 ประเทศตรวจสอบความเสียหาย ขณะที่ผู้ต้องหาเผย เข้ามาอยู่เมืองไทยประมาณ 1 ปี ย้ายสถานที่ไปเรื่อย
จับแก๊งคอลเซ็นเตอร์หลอกดูดเงินชาวจีนและชาวไต้หวันครั้งนี้ เปิดเผยขึ้นเมื่อเวลา 14.00 น.วันที่ 20 มิ.ย. พล.ต.อ.เอก อังสนานนท์ รอง ผบ.ตร. พล.ต.ท.จักรทิพย์ ชัยจินดา รรท.ผบช.น. พล.ต.ต.สืบศักดิ์ พันธุ์สุระ ผบก.น.5 พ.ต.อ.สุพจน์ พรหมศิริ รอง ผบก.น.5 พ.ต.อ.บรรจง อมฤทธิ์ ผกก.สส.บก.น.5 พ.ต.อ.จิรเดชน์ เหมจินดา ผกก.สน.คลองตัน ร่วมกัน จับกุมนายซู ซิง กัว อายุ 30 ปี ชาวจีนพร้อมพวกรวม 12 คน แยกเป็นชาวจีน 6 คน ชาวไต้หวัน 3 คน และชาวพม่าอีก 3 คน พร้อมของกลาง โต๊ะเก้าอี้ใช้นั่งรับโทรศัพท์ 12 ชุด โน้ตบุ๊ก 8 เครื่อง โทรศัพท์บ้าน 25 เครื่อง โทรศัพท์มือถือ 20 เครื่อง กล่องแยกสัญญาณโทรศัพท์ 10 เครื่อง เอกสารข้อมูลเกี่ยวกับหมายเลขโทรศัพท์ของเหยื่อ 400 แผ่น เอกสารข้อความเกี่ยวกับขั้นตอนที่ใช้หลอกเหยื่อ ประมาณ 200 แผ่น สายแลนโทรศัพท์ 40 เส้น เครื่องคิดเลข 10 เครื่อง จับกุมที่คอนโดลาคาสเคด ชั้น 11 ซอยเอกมัย 10 แยก 4 แขวงคลองเตยเหนือ เขตวัฒนา
พล.ต.ต.สืบศักดิ์ พันธุ์สุระ ผบก.น.5 เผยถึงการจับกุมครั้งนี้ว่า รับแจ้งจากสายลับ มีแก๊งคอลเซ็นเตอร์ชาวจีนเข้ามาพักที่คอนโดมิเนียมแห่งนี้ และร่วมกันโทรศัพท์ข้ามประเทศไปหลอกให้เหยื่อชาวจีนและไต้หวันทำธุรกรรมทางการเงิน อ้างว่า บัตรประชาชน และบัตรเครดิตมีปัญหาให้โอนเงินเข้าบัญชีเพื่อปลดล็อก จึงนำกำลังเข้าตรวจสอบ และจับกุมได้เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา สอบสวนเบื้องต้นทราบว่า แก๊งนี้เข้ามาปักหลักอยู่ในประเทศไทยมาแล้ว 1 ปี ย้ายที่ตั้งมาถึง 3 แห่ง แห่งแรกอยู่ที่อพาร์ตเมนต์ในซอยสุขุมวิท 24 แห่งที่สองอยู่ที่อพาร์ตเมนต์ ย่านพัฒนาการ 51 และแห่งสุดท้ายย้ายมาอยู่คอนโดฯดังกล่าว
ขณะที่ พล.ต.อ.เอก อังสนานนท์ รอง ผบ.ตร. กล่าวว่า สั่งให้เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมเร่งประสานกับ ทางการจีนเพื่อตรวจสอบว่า มีผู้เสียหายเข้าแจ้งความมากน้อยเพียงใด เพื่อขยายผลประเมินมูลค่าความเสียหาย ถือว่าเป็นการจับกุมแก๊งคอลเซ็นเตอร์รายใหญ่ ที่เข้ามาใช้ประเทศไทยเป็นที่ก่อเหตุหลอกลวงประชาชน เบื้องต้นแจ้งข้อหาบุคคลต่างด้าวเข้ามาประกอบอาชีพโดยไม่ได้รับอนุญาต พร้อมยึดของกลาง ก่อนนำตัวผู้ต้องหาและของกลางทั้งหมดส่งพนักงานสอบสวน สน.คลองตัน ดำเนินคดีต่อไป

泰國和尚為警局祝福 20 06 57 บรรยากาศการทำบุญเลี้ยงพระห้องสื่อมวลชน ตร.

2014年6月21日 星期六

泰國巴育上將公告現在的經濟狀況全文 有英文傳譯 แถลงการณ์ พล.อ. ประยุทธ์ 20 มิถุนายน 2557





พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ  กล่าวในรายการ  “คืนความสุขให้คนในชาติ”  ออกอากาศทางโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจแห่งประเทศไทย วันศุกร์ที่ 20 มิถุนายน 2557 เวลา 20.20 น.
สวัสดีพ่อแม่พี่น้องประชาชนที่รักทุกท่าน วันนี้มาพบกันอีกครั้งก่อนอื่นผมต้อง ขอขอบคุณทุกๆ ภาคส่วนไม่ว่าจะเป็นทหาร ตำรวจ ข้าราชการ เจ้าหน้าที่ของรัฐที่ร่วมกันกับประชาชน ในการปฏิบัติหน้าที่อย่างเข้มแข็ง เพื่อร่วมกันขับเคลื่อนประเทศไทย และนำพาความสุขคืนสู่ประชาชน โดยการแก้ไขปัญหาสำคัญต่าง ๆ ของชาติ อาทิ ปัญหาปากท้อง/ค่าครองชีพ ปัญหาการกวาดล้างจับกุมอาวุธสงคราม กลุ่มผู้มีอิทธิพล การพนัน อาชญากรรม/การกระทำผิดกฎหมาย และที่สำคัญที่สุดคือ การแก้ปัญหาความขัดแย้งของคนในชาติ ซึ่งมีมาอย่างยาวนาน ทั้งนี้ คสช.ได้รับความร่วมมืออย่างดียิ่งจากพี่น้องประชาชนทุกภาคส่วน ภาคเอกชน ภาคประชาสังคม ในการช่วยกันดำเนินการให้เกิดบรรยากาศแห่งความสมานฉันท์ โดยผ่านกิจกรรมคืนความสุขสู่ประชาชนของ คสช.ในรูปแบบต่าง ๆ ในทุกพื้น เพื่อนำพาประเทศไปสู่การปฏิรูปประชาธิปไตยที่ยั่งยืนต่อไป
สำหรับในห้วงสัปดาห์ที่ผ่านมา คสช. ได้เน้นย้ำมาตรการต่าง ๆ ในการดำเนินงานในทุก ๆ เรื่องของรัฐ จะต้องมี การสื่อสารกับประชาชนให้มีประสิทธิภาพและทั่วถึง ต้องสร้างการรับรู้ และความเข้าใจที่ถูกต้องกับประชาชน โดยการรับฟังเสียงของประชาชน ต้องตอบคำถามทุก ๆ คำถามที่เป็นข้อสงสัยเคลือบแคลงใจ และร่วมกันสร้างวิสัยทัศน์ร่วมกันกับประชาชน ประชาชนต้องรับรู้ถึง แนวทางในการดำเนินงาน การพัฒนาประเทศในด้านต่าง ๆ ทั้งในระยะเร่งด่วน ระยะสั้น และระยะยาวอาจจะเป็น 5 - 10 ปี ในวันข้างหน้า เพื่อให้เกิดการรับรู้ ความเข้าใจ และมีความคาดหวังที่ตรงกัน จะทำให้เกิดความร่วมมือร่วมใจในการดำเนินโครงการพัฒนาต่าง ๆ ในทุกมิติ โครงการที่สำคัญจะต้องผ่านกระบวนการมีส่วนร่วมของประชาชน เช่น การทำประชาพิจารณ์ทุกโครงการ จะต้องไม่เร่งรีบหรือกีดกันการรับรู้ของประชาชน โดยดูแลประชาชนทุกคนในชาติทุกกลุ่มทุกฝ่ายอย่างเท่าเทียม ในส่วนของการดำเนินการอื่น ๆ นั้นได้แก่ ลดช่องว่างในเรื่องรายได้ของคนในสังคม สร้างค่านิยมในเรื่องการพึ่งพาตนเอง ความมีวินัย รู้จักหน้าที่ ด้วยการทำงานหนัก และการไม่หวังพึ่งรัฐแต่เพียงอย่างเดียว จะต้องช่วยกันสร้างสังคมที่เอื้ออาทร มีการแบ่งปัน การให้โอกาสกับผู้มีรายได้น้อย คนมีรายได้มากจำเป็นต้องดูแลคนมีรายได้น้อย คนไทยไม่ทอดทิ้งกัน
ทั้งนี้ โดยใช้หลักการปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่ประกอบด้วย 3 ห่วง 2 เงื่อนไขคือความรู้และคุณธรรมที่ผมได้กล่าวไปแล้วนั้น ในส่วนของความมั่นคง ในห้วงสัปดาห์ที่ผ่านมานั้น หลายฝ่ายมีความกังวลในเรื่องปัญหาแรงงานต่างด้าวนอกระบบ ผิดกฎหมาย มีการเสนอข่าวถึงการไล่จับกุมแรงงานต่างด้าว และมีการใช้อาวุธต่อแรงงานต่างด้าว ส่งผลให้แรงงานเหล่านั้นเกิดความตื่นตระหนกและเดินทางกลับประเทศเป็นจำนวนมาก ส่งผลกระทบต่อการประกอบธุรกิจของผู้ประกอบการต่าง ๆ ปัญหาในเรื่องนี้ เป็นปัญหาที่สะสมมายาวนานเป็นเวลาหลายปี และเกี่ยวข้องกับเจ้าหน้าที่หลายฝ่าย รวมทั้งผู้ประกอบการ เจ้าหน้าที่ของรัฐ แรงงานไทย แรงงานต่างด้าว โดยข้อเท็จจริงนั้นผู้ประกอบการขนาดเล็กไม่สามารถจ้างแรงงานภายในประเทศได้เนื่องจากมีต้นทุนที่สูงถึงวันละ 300 บาท/คน/วัน ประกอบกับแรงงานไทยไม่นิยมในการทำงานที่ใช้แรงงานมากนัก ดังนั้นผู้ประกอบการจึงหันไปจ้างแรงงานต่างด้าว แรงงานนอกระบบ แรงงานผิดกฎหมายที่มีอัตราจ้างที่ถูกกว่า จนทำให้เกิดกระบวนการลักลอบนำพาแรงงานผิดกฎหมายเข้ามาค้าแรงงานในประเทศจำนวนมาก ทำให้เกิดปัญหาการค้ามนุษย์ แรงงานเด็ก ปัญหาอาชญากรรมต่าง ๆ ดังนั้น คสช. จำเป็นต้องเร่งดำเนินการจัดระเบียบเหล่านั้น เพื่อที่จะได้ดูแลสวัสดิภาพและความเป็นอยู่ที่เกิดขึ้นกับแรงงาน เพื่อป้องกันไม่ให้กลุ่มผู้มีอิทธิพลหรือนายจ้างเอารัดเอาเปรียบแรงงาน ตลอดจนมีการละเมิดสิทธิมนุษยชน และมีการใช้แรงงานเยี่ยงทาส หรือแม้กระทั้งการใช้แรงงานเด็ก
คสช. จะดำเนินการจัดระเบียบแรงงานเร่งด่วนปัจจุบันคือ ระยะที่ 1 มุ่งเน้นการกำจัดกลุ่มอิทธิพลที่ลักลอบนำพาแรงงานเถื่อนรีดไถเรียกเก็บค่าคุ้มครองเรียกเก็บค่าใช้จ่าย ซึ่งจากข้อมูลข่าวการนำพาแรงงานเข้าประเทศอาจจะถึงรายละ 2 หมื่นบาท ในพื้นที่ประเทศเพื่อนบ้าน และเข้าสู่ในกระบวนการลักลอบนำพาแรงงานเข้ามาพื้นที่ตอนใน เมื่อเข้ามาในพื้นที่ตอนในแล้วต้องจ่ายให้กับกลุ่มผู้มีอิทธิพลในประเทศเพิ่มเติมอีก ประมาณหัวละ 8,000 – 10,000 บาท นอกจากนั้นยังมีค่าใช้จ่ายตามกฎหมาย ในการขึ้นทะเบียนอีกจำนวนหนึ่ง สำหรับแรงงานที่ไม่ได้ขึ้นทะเบียนทำงานอยู่ถือเป็นแรงงานที่ผิดกฎหมายทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเป็นแรงงานบนบกและแรงงานในทะเล ทำให้แรงงานเหล่านี้ไม่ได้รับการดูแลในเรื่องสวัสดิการ ถูกเอารัดเอาเปรียบจากนายจ้าง มีการละเมิดสิทธิมนุษยชน การค้ามนุษย์ แรงงานทาส แรงงานเด็ก ทำให้ส่งผลต่อปัญหาภาพลักษณ์ของไทยในเวทีต่างประเทศ ทำให้ไทยอาจถูกลดอันดับความน่าเชื่อถือในเรื่องสิทธิมนุษยชน  แรงงานผิดกฎหมายที่ถูกกดขี่และหนีกลับประเทศก็จะมีกระบวนการลักลอบนำแรงงานเหล่านั้นเข้ามาทดแทนเพิ่มเติมอย่างต่อเนื่อง เพราะเป็นผลประโยชน์ของกลุ่มอิทธิพล ยิ่งมีการกวดขันมากขึ้น โดยการบังคับใช้กฎหมาย โดยการใช้มาตรการอื่น ๆ สนับสนุนเข้าไปนั้นจะทำให้การลักลอบนำพาเข้ามามากขึ้น และก็จะได้รับผลประโยชน์ตอบแทนมากขึ้น ปัญหาการลักลอบนำแรงงานเข้ามาโดยไม่มีการขึ้นทะเบียนจำนวนมากนั้น ทำให้รัฐไม่สามารถจะบริหารจัดการดูแลควบคุมปัญหาต่าง ๆ ที่จะเกิดขึ้น อาทิ อาชญากรรม โรคระบาด การค้ามนุษย์ การใช้แรงงานเด็กที่กล่าวไปข้างต้น ปัญหาเหล่านี้สะสมมาเป็นเวลายาวนานในหลายสมัยหลายยุคหลายรัฐบาล ซึ่งมีความพยายามในการแก้ปัญหามาอย่างต่อเนื่อง แต่สถานการณ์ก็ยังไม่ดีขึ้นโดยชัดเจนยังคงเป็นปัญหาที่ต่างชาติ  องค์กรระหว่างประเทศจับตามองอยู่ ล่าสุดจากการประเมินของรัฐบาลสหรัฐฯ ที่อาจจะพิจารณาสถานการณ์การค้ามนุษย์ของไทย อาจถูกปรับลดจาก TIER2 WATCH LIST เป็น TIER3 ซึ่งจะส่งผลกระทบกับสิทธิในการค้าการลงทุนต่าง ๆ ของประเทศ ดังนั้น คสช. มีความจำเป็นที่จะต้องเร่งรีบในการกำจัดกลุ่มผู้มีอิทธิพลเหล่านี้ และจัดระเบียบแรงงานโดยเร็วที่สุด รวมทั้ง จัดระเบียบการทำงานของภาครัฐให้มีประสิทธิภาพ มีการบูรณาการทุกส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง ที่ประกอบไปด้วย ฝ่ายความมั่นคง กระทรวงแรงงาน กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงการต่างประเทศ เจ้าของธุรกิจ ประกอบการต่าง ๆ ในอันที่จะกำหนดมาตรการที่ดีที่สุดเพื่อนำพาความน่าเชื่อถือ ในเรื่องการดูแลสิทธิมนุษยชนของไทย แรงงานไทย ให้เป็นที่ยอมรับในระดับสากล
การบริหารจัดการในระยะที่ 1 ของ คสช. เป็นการผ่อนผันให้แรงงานทั้งในและนอกระบบได้ทำงานไปพลางก่อน เพื่อปิดช่องว่างไม่ให้กลุ่มผู้มีอิทธิพลและนายทุนแสวงประโยชน์ต่าง ๆ จากผู้ใช้แรงงาน โดย คสช. ตระหนักดีว่าแรงงานเหล่านี้มีความสำคัญต่อการขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยและเข้าใจถึงความเดือดร้อนของผู้ประกอบการต่าง ๆ จึงได้ผ่อนผันให้มีการใช้แรงงานเหล่านั้นสามารถทำงานต่อไปได้ เป็นการชั่วคราว แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นต้องขอความร่วมมือจากผู้ประกอบการ ในการควบคุม กำกับดูแล พร้อมที่จะปฏิบัติตามมาตรการต่าง ๆ เพื่อนำแรงงานเข้าสู่ในระบบต่อไป  ทั้งนี้จะต้องไม่ดำเนินการใด ๆ ให้เกิดข้อบกพร่องเหมือนกับที่ผ่านมาในอดีต ทำให้เปิดโอกาสกับกลุ่มผู้มีอิทธิพลและนายทุน เอารัดเอาเปรียบ บังคับขู่เข็ญ ทำให้เกิดการละเมิดสิทธิมนุษยชนกับแรงงานผิดกฎหมายเหล่านั้น
ในระยะที่ 2 ซึ่งเราอยู่ในขณะนี้คณะกรรมการนโยบายการจัดการปัญหาแรงงานต่างด้าว (กนร.) ซึ่งมี ผู้บัญชาการทหารสูงสุด (ผบ.ทสส.) หัวหน้าฝ่ายความมั่นคงเป็นประธาน จะดำเนินการจัดระเบียบควบคุมแรงงานทั้งระบบให้ถูกต้อง ทั้งแรงงานประเภทเช้าไปเย็นกลับตามแนวชายแดน แรงงานตามฤดูกาลในภาคการเกษตร เช่น ตัดอ้อย ขุดมัน เก็บเกี่ยว เพาะปลูกพืชผลทางการเกษตร และแรงงานประจำปี ซึ่งมีการขึ้นทะเบียนแรงงานอยู่ในปัจจุบันนั้น จะต้องจัดเตรียมพื้นที่หรือโซนนิ่ง เพื่อให้แรงงงานได้มีพื้นที่พักอาศัยที่เป็นระเบียบสะอาดเรียบร้อยสวยงาม มีการกำกับดูแลไม่ให้มีการละเมิดสิทธิมนุษยชน มีการจัดตั้งศูนย์พิสูจน์สัญชาติ ร่วมกับมิตรประเทศหรือประเทศเพื่อนบ้าน เพื่อหาที่มาของกลุ่มบุคคลลักลอบเข้ามาที่มีสัญชาติไม่ชัดเจน เช่น ชาวโรฮิงญา และจัดตั้งศูนย์รับ - ส่งคนงานที่ถูกกฎหมายในการนำเข้าและส่งกลับประเทศต้นทาง ทั้งนี้เพื่อให้เป็นระเบียบมีความปลอดภัย รวมทั้งจะมีการพิจารณาทบทวนกำหนดค่าใช้จ่ายในการเข้ามาทำงานของแรงงานในสถานประกอบการต่าง ๆ ให้มีความเหมาะสม ไม่ให้มีการเอารัดเอาเปรียบแรงงานทั้งหมดที่เข้ามา สำหรับการกำหนดมาตรการทางกฎหมายจะมีการปรับปรุงกฎระเบียบเพื่อให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้มีการปฏิบัติงานอย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น หากเมื่อเรามีการนำแรงงานทั้งหมดเข้าระบบแล้ว ก็จะทำให้สามารถบังคับใช้กฎหมายได้อย่าง เคร่งครัด ป้องกันปัญหาการค้ามนุษย์ อาชญากรรม ยาเสพติด โรคระบาด ฯลฯ และป้องกันการละเมิดสิทธิมนุษยชนได้อย่างสมบูรณ์
สำหรับเหตุการณ์ความโกลาหลที่เกิดขึ้น ในเรื่องการไล่จับกุมแรงงานที่เป็นข่าวในช่วงที่ผ่านมานั้น ทำให้มีแรงงานเดินทางกลับประเทศจำนวนมากนั้น จากข้อมูลทางด้านการข่าว ระบุว่า เป็นการปฏิบัติการของกลุ่มผู้มีอิทธิพลและเจ้าหน้าที่ที่ทุจริต ได้ปล่อยข่าวให้เกิดความหวาดกลัว วัตถุประสงค์ในการให้ร้าย คสช. มุ่งหวังให้แรงงานจำนวนมากเหล่านั้นได้เดินทางกลับออกไปยังประเทศของตน เปิดหนทางให้มีการนำแรงงานเหล่านั้นกลับเข้ามาใหม่ มีการเรียกเก็บผลประโยชน์ จากแรงงานเหล่านั้นอีกครั้ง ซึ่ง คสช.จะเร่งดำเนินการปราบปรามขบวนการดังกล่าวโดยเร็วที่สุด
คสช. ยังคงให้ความสำคัญ กับการสร้างความเข้าใจที่ถูกต้องกับนานาประเทศ เพื่อปกป้องสิทธิของไทยในเวทีระหว่างประเทศ และไม่ให้กระทบบรรยากาศการค้าการลงทุนของนักลงทุนและนักธุรกิจชาวต่างชาติ สำหรับการดำเนินงานในเรื่องนี้ คสช. ได้มอบหมายให้ ฝ่ายความมั่นคง โดย กระทรวงการต่างประเทศเป็นหน่วยงานหลัก ร่วมกับกระทรวงและภาคส่วนต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง ได้แก่  กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงแรงงาน สมาคมผู้ประกอบการต่าง ๆ ทั้งไทยและต่างชาติ เร่งชี้แจงทำความเข้าใจ พัฒนาความร่วมมือ ที่เอื้อประโยชน์กับทั้งไทยและมิตรประเทศอย่างเท่าเทียม เช่น การเจรจาข้อตกลงทางการค้าต่าง ๆ ที่ยังคงค้างคาอยู่ ขั้นตอนการดำเนินการที่ผ่านมาซึ่งในวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา คสช. ได้ร่วมพบปะกับกลุ่มผู้ประกอบการชาวสหรัฐฯ และยุโรปในประเทศไทย เพื่อรับฟังข้อคิดเห็นและข้อเสนอแนะที่เป็นประโยชน์ต่อการค้าการลงทุนต่าง ๆ ในประเทศไทย และมีแนวโน้มทุกประเทศมีความเข้าใจกับสถานการณ์ในไทย และการปฏิบัติงานของ คสช. มากยิ่งขึ้น
ในเรื่องการแก้ไขปัญหาชายแดนภาคใต้ คสช. ให้ความสำคัญในเรื่องนี้อย่างที่สุด ได้มีการปรับปรุงโครงสร้างของส่วนราชการต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องให้มีการบูรณาการ ทั้งในเรื่องของแผนงานโครงการงบประมาณและในส่วนของการปฏิบัติ เพื่อให้มีเอกภาพและประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น โดยการแก้ไขปัญหาภาคใต้นั้น มิใช่การมุ่งเน้นแต่การใช้กำลังเพียงอย่างเดียวจะต้องใช้การปฏิบัติการทางทหารควบคู่ไปกับงานด้านการพัฒนาในทุกมิติ เพื่อร่วมกับราชการอื่นให้เข้าถึงประชาชนมากยิ่งขึ้นและเป็นไปตามความต้องการของประชาชนอย่างแท้จริง ขอให้พี่น้องประชาชนได้มีความมั่นใจว่า ถึงแม้ คสช. จะมีภารกิจที่ต้องเร่งด่วนหลายประการด้วยกัน แต่ คสช. จะยังคงเร่งเดินหน้าแก้ปัญหาชายแดนภาคใต้ เพื่อนำพาความสงบสุขมาสู่พี่น้องประชาชนในพื้นที่โดยเร็ว
ด้านเศรษฐกิจ
งานสำคัญของ คสช. ในการบริหารราชการแผ่นดินและขับเคลื่อนเศรษฐกิจ มุ่งหวังเพื่อสร้างความเป็นอยู่ที่ดีให้กับประชาชนในสัปดาห์ที่ผ่านมา ได้แก่ การมอบนโยบายการจัดทำงบประมาณรายจ่ายภาครัฐ ประจำปีงบประมาณ 2558 โดยได้ตั้งงบประมาณรายจ่ายไว้ที่ 2,575,000 ล้านบาท และรายรับไว้ที่ 2,325,000 ล้านบาท เป็นการวางแผนงบประมาณขาดดุล ที่ 250,000 ล้านบาท ซึ่งเป็นการขาดดุลเพิ่มขึ้นเล็กน้อยจากปีงบประมาณ 2557 ที่ผ่านมา ทั้งนี้จะยึดถือระเบียบวินัยการเงินการคลังอย่างเคร่งครัด แนวนโยบายดังกล่าวมุ่งเน้นผลประโยชน์ไปที่ประชาชนทุกภาคส่วน ทุกพื้นที่อย่างทั่วถึง การเพิ่มประสิทธิภาพในการใช้จ่ายงบประมาณ ลดความซ้ำซ้อน โดยมีการบูรณาการงานทุกกระทรวงในขั้นตอนการจัดทำงบประมาณ โดยให้ต่อเนื่องเชื่อมโยงในเรื่องที่เกี่ยวข้องในเรื่องเดียวกัน เช่น การบริหารจัดการน้ำ ซึ่งที่ผ่านมาต่างคนต่างทำ ต่างคนต่างดำเนินการ ขาดความต่อเนื่องเชื่อมโยงอย่างเป็นระบบ ไม่เป็นไปตามแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 11 ทำให้ไม่สามารถแก้ไขปัญหาภัยแล้งและอุทกภัยได้อย่างเป็นระบบและมีประสิทธิภาพอย่างยั่งยืน
การวางแผนงบประมาณขาดดุลนั้น เนื่องจากมีความจำเป็นต้องให้มีความสอดคล้องกับสภาวะเศรษฐกิจโลกที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน และเป็นความจำเป็นเพื่อการกระตุ้นเศรษฐกิจ ให้ประชาชนได้มีรายได้และความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น เป็นการขาดดุลเพิ่มเติมเพียงเล็กน้อย เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา สภาวะเศรษฐกิจโลกที่ยังไม่กระเตื้องขึ้น ในปัจจุบันนั้น อาจจะส่งผลให้กลไกที่สำคัญในการกระตุ้นเศรษฐกิจไทยอื่น ๆ อาทิ การส่งออก การลงทุน การบริโภคอาจจะมีแนวโน้มที่ลดลง ดังนั้นการวางแผนงานในเรื่องของการเพิ่มการใช้จ่ายงบประมาณในส่วนของภาครัฐจะเป็นมาตรการที่สำคัญ เพื่อให้เกิดการกระตุ้นเศรษฐกิจในทุกระดับ การบริโภค การจ้างงาน นำเม็ดเงินสู่มือประชาชน คสช. จะติดตามผลของการขับเคลื่อนเศรษฐกิจอย่างใกล้ชิด และต่อเนื่องเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอย ซึ่งอาจจะมีการพิจารณางบประมาณภาครัฐเพิ่มเติมในระหว่างปี เพื่อให้เกิดการจ้างงานและสร้างรายได้ให้กับประชาชน อย่างไรก็ตาม ใน ปัจจุบัน ภาพรวมของเศรษฐกิจไทยตั้งแต่วันที่ 22 พ.ค. เป็นต้นมา มีแนวโน้มที่ดีขึ้น โดยตัวเลขการลงทุนที่เพิ่มขึ้น จากสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทยเผยดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรมอยู่ที่ 85.1 เปอร์เซ็นต์ เพิ่มขึ้นเป็นครั้งแรกในรอบ 7 เดือนที่ผ่านมา การท่องเที่ยวที่เริ่มฟื้นตัว ปัจจุบันมีนักท่องเที่ยวเริ่มเดินทางเข้ามาในประเทศเพิ่มมากขึ้นตามลำดับ
แผนการลงทุนที่ คสช. เร่งรัดเพื่อให้เกิดประโยชน์กับประชาชนและสร้างบรรยากาศ ที่เอื้อต่อการลงทุน ที่จะเร่งดำเนินการเริ่มต้นในปีงบประมาณ 2557 นี้ ได้แก่ โครงการรถไฟฟ้าส่วนต่อขยาย การสร้างรถไฟรางคู่ ขณะนี้การรถไฟแห่งประเทศไทยและกระทรวงคมนาคม ได้จัดทำรายละเอียดเสร็จสิ้นสมบูรณ์พร้อมเข้ารับการพิจารณาจาก คสช. ในเร็ววันนี้ คสช. ได้ให้นโยบายในการพัฒนาระบบสาธารณูปโภคต่าง ๆ ให้มีประสิทธิภาพครบถ้วนสมบูรณ์ อาทิ การเชื่อมต่อของระบบขนส่งมวลชนต่าง ๆ จะต้องต่อเนื่องเชื่อมโยง สถานีรถไฟฟ้าโดยรอบปริมณฑล จะต้องคำนึงถึงรายละเอียดที่จำเป็น อาทิ มีพื้นที่จอดรถและต้องได้สัดส่วนสัมพันธ์กับจำนวนผู้โดยสาร
ปัจจุบันทุกโครงการอยู่ในขั้นตอนการตรวจสอบความโปร่งใส ความมีประสิทธิภาพ จากคณะ คสช. ที่ประกอบไปด้วย สำนักงบประมาณ สภาพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ สำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน ปปช. และส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง ซึ่ง คสช. อาจจะพิจารณานำกระบวนการตรวจสอบการทุจริตคอรัปชั่นที่ได้รับการยอมรับจากสากล มาใช้ตรวจสอบเพิ่มเติมด้วย โดยจะเป็นการเน้นตรวจสอบตั้งแต่ขั้นตอนการจัดทำความต้องการ (TOR)  การจัดซื้อจัดจ้าง การดำเนินการและการตรวจรับ รวมทั้งการเผยแพร่ข่าวสารให้ประชาชนและผู้มีส่วนได้เสียได้รับทราบตลอดทุกขั้นตอนของการดำเนินงาน ซึ่งในอนาคตจะมีการปฏิรูปในเรื่องนี้อย่างจริงจัง ทั้งในเรื่องระเบียบ กฎหมาย กระบวนการต่าง ๆ เพื่อป้องกันการทุจริตคอรัปชั่นอย่างสมบูรณ์ต่อไป
ในเรื่องการปรับปรุงกลไกของระบบยุติธรรม การบริหารราชการของส่วนราชการ องค์กรอิสระ รัฐวิสาหกิจ เพื่อความมีประสิทธิภาพ ความโปร่งใส เป็นธรรม และตรวจสอบได้นั้น ในระยะเร่งด่วนนี้ คสช. จะแก้ไขเฉพาะในส่วนที่เป็นปัญหาสำคัญที่ส่งผลให้เกิดความเสียหายร้ายแรงต่อรัฐ และการแก้ไขนั้นไม่มีผลกระทบต่อประชาชนในวงกว้าง ส่วนในระยะที่ 2 จะดำเนินการแก้ไขในเรื่องที่ทุกภาคส่วนให้ความสนใจมีความสำคัญ และมีผลกระทบกับประชาชนในวงกว้าง โดยทั้งนี้ให้ประชาชนและทุกภาคส่วนได้มีส่วนร่วมในการดำเนินการ ผ่านสภาปฏิรูป ซึ่งจะถูกดำเนินการต่อเนื่องไปจนถึง ขั้นตอนการมีรัฐบาลมาจากการเลือกตั้ง และหลังจากนั้นอีกต่อไปด้วย ทั้งนี้เพื่อให้ประเทศไทยมีระบบการบริหารราชการแผ่นดินที่มีประสิทธิภาพ โปร่งใส เป็นธรรม ดูแลผลประโยชน์ของประชาชนทุกกลุ่มทุกฝ่ายอย่างเท่าเทียม
ในเรื่องของการปรับปรุงการบริหารงานรัฐวิสาหกิจนั้น กระทำเพื่อเพิ่มเติมประสิทธิภาพและสร้างความโปร่งใสให้เกิดขึ้นในรัฐวิสาหกิจ ให้เป็นมาตรฐานสากล หลาย ๆ รัฐวิสาหกิจมีผลการดำเนินงานที่ดีอยู่แล้ว ไม่มีปัญหาแต่ประการใด มีเพียงบางรัฐวิสาหกิจที่อาจประสบปัญหาในเรื่องการบริหารจัดการและประสิทธิภาพ ตลอดจนความโปร่งใสที่จะต้องปรับปรุง เพื่อให้สามารถแข่งขันและได้รับการยอมรับจากประชาชนทุกพวกทุกฝ่าย อาทิ ด้านพลังงาน ด้านการสื่อสาร ที่รัฐจำเป็นต้องคงสัดส่วนที่เหมาะสมระหว่างการบริหารงานของรัฐและเอกชน เพื่อให้เกิดประโยชน์และเป็นธรรมกับผู้บริโภคอย่างแท้จริง ป้องกันการผูกขาด โดยเฉพาะในส่วนที่เกี่ยวข้องกับความมั่นคงของรัฐ คสช. ต้องขอขอบคุณคณะผู้บริหารรัฐวิสาหกิจที่มีความเข้าใจและเปิดทางให้มีการปรับปรุงแก้ไข เพื่อประโยชน์ของประเทศชาติในระยะยาว การดำเนินการในระยะสั้นนี้ จะเป็นการเฟ้นหาบุคคลที่มีความรู้ มีความสามารถ มีประสบการณ์ อยู่ในธุรกิจมานาน รวมทั้งบุคลากรที่มีความรู้ที่เกี่ยวข้อง ทั้งในเรื่องการบริหารจัดการ การตลาด การเงิน และความมั่นคง เข้ามาเป็นกรรมการของรัฐวิสาหกิจเพิ่มเติม และระยะต่อไปจะเร่งให้มีการพิจารณาแก้ไขกฎระเบียบที่เป็นปัญหาอุปสรรคต่อการดำเนินธุรกิจ ก่อให้เกิดการรั่วไหลของงบประมาณ สร้างความเสียหายต่อรัฐ อาทิ การปรับค่าตอบแทนกรรมการให้มีความเหมาะสม ไม่มากหรือไม่น้อยเกินไป การบริหารจัดการรัฐวิสาหกิจที่ต้องมีความโปร่งใส ตรวจสอบได้ มีประสิทธิภาพ ซึ่งปัจจุบันได้มอบหมายให้ฝ่ายกฎหมายของ คสช. ไปเร่งพิจารณาถึงแนวทางแก้ไขปัญหาที่รูปธรรมต่อไป
การบรรเทาความเดือดร้อนประชาชน คสช. ได้เร่งรัดและอนุมัติให้มีการจ่ายเงินให้กับประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนที่ตกค้างมาตั้งแต่ปีงบประมาณ 2555 จนถึงปัจจุบัน ทั้งในเรื่องภัยพิบัติทางธรรมชาติ การชดเชยพืชผลทางการเกษตร อาทิ  ยางพารา ทั้งนี้การจ่ายเงินดังกล่าวเป็นไปตามระเบียบ ข้อกฎหมายอย่างเคร่งครัด และเป็นสิทธิของประชาชนที่พึงมีพึงได้ ซึ่ง คสช. ให้มีการตรวจสอบความถูกต้องในเรื่องบัญชีการจ่าย อาทิเช่น ในกรณีชาวสวนยางนั้น จะต้องเป็นเกษตรกรตัวจริง และไม่มีการบุกรุกใช้ผืนป่ามาทำไร่ โดยทางกระทรวงเกษตรได้ให้มีการขึ้นบัญชีเกษตรกรชาวสวนยางไว้แล้ว คสช. ได้เร่งรัดให้มีความทันสมัยต่อไป รวมเงินงบประมาณที่จะช่วยเหลือเกษตรกรที่ปลูกยางพาราประมาณ 100,000 กว่ารายเป็นงบประมาณกว่า 6,600 ล้านบาท จาก 63 จังหวัด และช่วยเหลือเกษตรกรผู้ประสบภัยธรรมชาติที่ตกค้างตั้งแต่ปี 2555 ประมาณ 580,000 ราย ใช้งบประมาณ 5,400 ล้านบาท จ่ายเงินเยียวยา ตลอดจนการให้กับชาวนาในโครงการรับจำนำข้าวเป็นเงิน 85,685 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 93 และคาดว่าจะดำเนินการแล้วเสร็จก่อนวันที่ 22 มิ.ย.2557 การเตรียมการแก้ไขปัญหาลำไยที่คาดว่าจะมีผลผลิตออกสู่ตลาดจาก 8 จังหวัดภาคเหนือ ในช่วงเดือนสิงหาคมถึงกันยายน ประมาณ 5 แสนตัน ได้เตรียมมาตรการรองรับ โดยใช้กลไกตลาดปกติ ผ่านระบบสหกรณ์ วิสาหกิจชุมชน ศูนย์กลางรับซื้อผลผลิต และโรงงานอุตสาหกรรม ส่วนผลไม้ภาคตะวันออก เงาะ ลองกอง คาดว่าจะมีผลผลิตออกสู่ตลาดพร้อมกันจำนวนมาก จึงได้เตรียมมาตรการรองรับไว้ 4 มาตรการ ได้แก่ การกระจายผลผลิตออกนอกแหล่งผลิต ส่งเสริมการแปรรูป เน้นบริหารจัดการคุณภาพ และประชาสัมพันธ์โดยการส่งเสริมการบริโภค
คสช. ขอทำความเข้าใจกับพี่น้องเกษตรกรถึงแนวทางการช่วยเหลือในระยะต่อไป คสช. จะพิจารณาแนวทางที่มีความยั่งยืนมีประสิทธิภาพ โดยไม่บิดเบือนกลไกตลาด อาทิ การช่วยเหลือในเรื่องลดต้นทุนการผลิต ส่งเสริมเทคโนโลยี ส่งเสริมตลาด ในส่วนของการบริหารจัดการนั้น จะให้เงินอุดหนุนเฉพาะเรื่อง จะมีการพิจารณาอีกครั้งให้มีความเหมาะสม ซึ่งสิ่งต่าง ๆ เหล่านี้จะเป็นเพียงมาตรการระยะสั้น ทั้งนี้เนื่องจากการอุดหนุนสินค้าเกษตรต่าง ๆ ที่ทำให้เกิดการบิดเบือนกลไกตลาดนั้นอาจจะนำมาซึ่งความเสียหายในระยะยาว ตัวอย่างเช่น การที่รัฐอุดหนุนสินค้าเกษตรชนิดใดชนิดหนึ่ง จะทำให้เกษตรกรหันมาเพาะปลูกเป็นจำนวนมาก ผลิตผลล้นตลาด สินค้าราคาตก ขณะที่นายทุนฉวยโอกาสขึ้นราคาสินค้าที่เป็นปัจจัยในการเพาะปลูก เกิดการทุจริตนำสินค้าจากต่างชาติเข้ามาสวมสิทธิ์ คุณภาพสินค้าตกต่ำไม่สามารถแข่งขันได้ในตลาดโลก ทั้งราคาและคุณภาพ สร้างความเสียหาย รัฐต้องเสียรายได้ไปเป็นจำนวนมาก ในขณะที่เกษตรกรประสบปัญหาในการจำหน่ายสินค้าที่ล้นตลาดอีกต่อไป
ในส่วนการช่วยเหลือชาวนานั้น อยากจะเรียนให้ชาวนาทั้งประเทศได้มีความเข้าใจอย่างถูกต้องเป็นประเด็นสำคัญที่สังคมเข้าใจ และอาจจะกระทบเกษตรกรชาวนาทั้งประเทศเป็นจำนวนมาก
แนวทางวันนี้นั้น เราได้เตรียมการช่วยเหลือในระยะสั้นคือ 2557/58 ในการช่วยเหลือเกษตรกรปลูกข้าวนาปี ซึ่งมี 2 มาตรการด้วยกัน มาตรการหลักเป็นการลดราคาปัจจัยการผลิต โดยได้รับความร่วมมือจากสมาคมผู้ค้าปุ๋ย ผู้จำหน่ายเมล็ดพันธุ์ ผู้ประกอบการรถเกี่ยวข้าว กระทรวงพาณิชย์ และกระทรวงเกษตรฯ ในการควบคุมราคาสินค้าจำเป็น ที่เป็นปัจจัยในการผลิต อาทิ ปุ๋ยเคมี สารเคมียาป้องกันกำจัดศัตรูพืช เมล็ดพันธุ์ โดยจะลดค่าบริการรถเกี่ยวข้าวลง ค่าเช่านาลดลง ซึ่งจะมียอดเฉลี่ย/ไร่ เพื่อให้ลดต้นทุนการผลิต/ไร่ ให้น้อยลงตามลำดับ สำหรับมาตรการสนับสนุนจะเป็นการ สนับสนุนแหล่งเงินทุนการให้สินเชื่อระยะสั้นกับชาวนา ระยะเวลาไม่เกิน 1 ปี วงเงินไม่เกิน 50,000 บาทต่อคน คิดอัตราดอกเบี้ยร้อยละ MRR โดย คสช. ช่วยเหลือชาวนาด้วยการชดเชยค่าดอกเบี้ยร้อยละ 3 เป็นระยะเวลา 6 เดือน โครงการสินเชื่อเพื่อรวบรวมข้าวและสร้างมูลค่าเพิ่มโดยสถาบันเกษตรกร ให้สินเชื่อกับสหกรณ์ภาคการเกษตรและกลุ่มเกษตรกรในการนำข้าวเปลือกเพื่อจำหน่ายและนำมาแปรรูป การเพิ่มผลผลิต/ไร่ ใช้เทคโนโลยีการปลูกข้าวที่เหมาะสม ลดต้นทุน เพิ่มผลผลิต ธนาคารเมล็ดพันธุ์ข้าว และ Zoning ในการจัดหาแหล่งน้ำสนับสนุน ส่งเสริมการตลาด เร่งหาตลาดใหม่ ช่วยเหลือการเก็บ Stock เชื่อมโยงตลาดในและต่างประเทศ ประกันยุ้งฉาง ส่งเสริมการมีส่วนร่วม ประกันภัยข้าว ตั้งกองทุนข้าว ตั้งสถาบันพัฒนาศักยภาพทั้งระบบ
การดำเนินงานของคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน BOI ที่มีในปัจจุบัน ได้มีมาตรการส่งเสริมการลงทุนด้วยการสร้างแรงจูงใจต่าง ๆ อาทิ การลดภาษีนำเข้าเครื่องจักร ภาษีรายได้นิติบุคคล และมาตรการอำนวยความสะดวกต่างๆ โดย คสช. ได้เร่งรัดให้มีการจัดการประชุม ของคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุนและอนุกรรมการ เพื่อเร่งดึงเม็ดเงินลงทุนเข้าสู่ประเทศและระบบเศรษฐกิจไทย
ในวันพุธที่ผ่านมามีการประชุมพิจารณาอนุมัติโครงการที่ผ่านการกลั่นกรองและตรวจสอบแล้วจากคณะอนุกรรมการ BOI  ทั้งสิ้น 18 โครงการ ทั้งนี้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ระเบียบวิธีการ การส่งเสริมการลงทุนเดิมในปี 2556 มาพิจารณาเงื่อนไขเพิ่มเติมเพื่อให้เป็นไปตามนโยบายของ คสช. ในเรื่องของการมุ่งเน้นการใช้วัตถุดิบภายในประเทศ และเป็นอุตสาหกรรมที่ใช้เทคโนโลยีสูงผลิตสินค้าที่มีมูลค่า การสร้างและถ่ายทอดเทคโนโลยีในการผลิต การดูแลรักษาสิ่งแวดล้อมและอนุรักษ์พลังงาน โดยให้มีการลงทุนของนักลงทุนชาวไทยและชาวต่างชาติ ในสัดส่วนที่เหมาะสม ปัจจุบันมีสัดส่วนบริษัทไทย มากกว่า50 เปอร์เซ็นต์ โดยในครั้งนี้คณะกรรมการได้อนุมัติการลงทุนทั้งที่เป็นกิจการใหม่ ขยายกิจการเดิม รวมมูลค่าทั้งสิ้นประมาณ 120,000 ล้านบาท การลงทุนดังกล่าวจะเป็นการสร้างการจ้างงาน การใช้วัตถุดิบและผลิตผลในประเทศ เป็นการสร้างรายได้แก่ประชาชนต่อไป มีประโยชน์ทั้งโดยตรงและโดยอ้อม ทั้งนี้ คสช. ได้สั่งการให้สถาบันส่งเสริมการลงทุนไปพิจารณาปรับปรุงระเบียบและเงื่อนไขในการอนุมัติโครงการตามนโยบายของ คสช. เพิ่มเติมขึ้น เพื่อให้สอดคล้องกับสภาวะทางเศรษฐกิจ การลงทุนในปัจจุบันเพื่อเตรียมรับการเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนและประชาคมโลกต่อไป
ในเรื่องนี้ ขอเรียนว่าเป็นเรื่องที่มีความสำคัญ ขอให้ทุกคนทำความเข้าใจก่อนว่าการลงทุนในโครงการที่ BOI ให้การสนับสนุน เราไม่ได้นำเม็ดเงินของประเทศเราไปให้เขา เป็นการลงทุนจากต่างประเทศทุกโครงการส่วนหนึ่ง อีกส่วนหนึ่งเป็นการดำเนินการของบริษัทไทยในประเทศนี้อยู่แล้ว เพราะสิ่งที่สร้างแรงจูงใจคือการลดภาษี การนำเข้าเครื่องจักร ลดภาษีนิติบุคคล แต่เรื่องการลงทุนเป็นเรื่องของเขาทั้งสิ้น ทั้งบริษัทไทยและบริษัทต่างประเทศไม่ได้ใช้เม็ดเงินของรัฐไปช่วย ขอกราบเรียนให้ทราบโดยทั่วกัน
ในด้านสังคมและสิ่งแวดล้อม
คสช. มีความตั้งใจที่จะช่วยเหลือประชาชนที่มีรายได้น้อยเป็นอันดับแรก ซึ่งมีความเดือดร้อนในเรื่องปากท้อง การเอารัดเอาเปรียบของผู้มีรายได้น้อยเหล่านี้ อาทิ การประกอบการรับจ้าง มอเตอร์ไซค์รับจ้าง แท็กซี่ ลูกจ้างรายวัน รายสัปดาห์ ปัจจุบันเราเห็นใจท่านถูกเอารัดเอาเปรียบจากกลุ่มนายทุนและผู้มีอิทธิพล โดยอาศัยช่องว่างการกระทำผิดกฎหมายหรือการให้บริการนอกระบบ เรียกเก็บค่าคุ้มครองต่าง ๆ สร้างความเดือดร้อนกับผู้หาเช้ากินค่ำ คสช. วันนี้เราอยากจะให้มีการร่วมมือกันในการจัดระเบียบ ในช่วงแรกอาจจะมีปัญหาบ้างไม่สะดวกบ้าง และทั้งผู้ให้บริการและรับการบริการ แก้ไขให้เกิดความเป็นธรรม และเกิดความถูกต้องในการประกอบอาชีพ ไม่ต้องการให้ผู้มีอิทธิพลกลุ่มมาเฟีย ไม่ว่าจะสีไหน ไม่ต้องการให้เข้าไปข่มขู่ ฉกฉวยโอกาส เพราะในกลุ่มบุคคลเหล่านี้ที่ขับขี่รถจักรยานยนต์รับจ้าง หรือมีรายได้น้อยเหล่านั้น บางส่วนก็เป็นข้าราชการ เป็นกำลังพลในกองทัพ และเป็นผู้ที่มีรายได้น้อย เขาถูกเอารัดเอาเปรียบมาเป็นระยะนานพอสมควรแล้ว เช่น ต่อการขับขี่รถจักรยานยนต์รับจ้างเสื้อตัวละเป็นแสน ๆ ถึงสี่แสนบาท ผมว่ามากเกินไป คิดว่าจะต้องจัดสรรในเรื่องของการดำเนินการให้ถูกต้องตามกฎหมาย และทำอย่างไรเขาเหน็ดเหนื่อย เขาก็ต้องได้รับผลตอบแทนของเขา เพื่อไปเลี้ยงดูครอบครัวอย่างเป็นธรรม อย่าไปเบียดเบียนจากเขาเลย
การดำเนินงานในด้านการสร้างความสมานฉันท์เพื่อนำไปสู่การปฏิรูปนั้น ปัจจุบันยังอยู่ในระยะที่ 1 ซึ่ง คสช. เป็นแต่เพียงผู้อำนวยความสะดวก สร้างบรรยากาศให้เกิดการพูดคุย ถ้าบรรยากาศไม่ดีก็พูดคุยกันไม่ได้เกิดการทะเลาะกัน ตั้งแต่วันนี้ ฉะนั้นต้องสร้างบรรยากาศที่ดีให้เกิดการพูดคุยกันก่อน แลกเปลี่ยนความคิดซึ่งกันและกัน วันนี้ คสช. จะไม่สรุปหรือชี้นำใด ๆ ที่ผ่านมา คณะทำงานเตรียมการปฏิรูปได้กำหนดกรอบและเริ่มดำเนินการตั้งแต่ 4 มิ.ย.57 จะรวบรวมวิเคราะห์ข้อมูลจากนักวิชาการจากทุกภาคส่วนทุกพื้นที่ ค้นหาและทบทวนเอกสารและผลการวิจัย ซึ่งข้อมูลจากการเสวนาในอดีตของกลุ่มที่เกี่ยวข้องต่าง ๆ มากกว่า 200 ผลงาน ทั้งที่ได้รับการยอมรับในแวดวงวิชาการและภาคประชาสังคม เพื่อใช้เป็นข้อมูลพื้นฐานในการดำเนินงานต่อไป ในระยะที่ 2 ได้เปิดช่องทางการรับข้อมูลผ่านสื่อต่าง ๆ ทั้งโทรศัพท์ ไปรษณีย์ เว็บไซต์ ที่ผ่านมามีเรื่องและประเด็นที่เกี่ยวข้อง ได้รับการนำเสนอที่สำคัญหลัก ๆ 11 ประเด็น ได้แก่ การทุจริตคอรัปชั่น การเข้าสู่อำนาจ (นิติบัญญัติ) และตุลาการ การใช้อำนาจการบริหาร (การรวมอำนาจ และการกระจายอำนาจ) การควบคุมอำนาจ (กระบวนการยุติธรรมและองค์กรอิสระ) ระบบพลังงาน การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน ด้านสื่อสารมวลชน การศึกษา การเรียนรู้ และภูมิปัญญา คุณธรรม - จริยธรรม ความเหลื่อมล้ำทางด้านเศรษฐกิจและสังคม การจัดสรรทรัพยากรที่ดิน น้ำ และป่าไม้ ทั้งหมดนั้นจะรวมเข้าไปสู่ขั้นตอนการปฏิรูปในขั้นตอนที่สอง ซึ่งจะมีการจัดตั้งสภาปฏิรูป จะมีการคัดสรรมา ไม่ใช่ คสช. ที่เป็นผู้คัดสรร ซึ่งเป็นตัวแทนแต่ละพวกแต่ละฝ่ายที่เกี่ยวข้อง ได้รับการคัดสรรมาเป็นจำนวนที่ได้เตรียมการไว้ในระยะเวลาอันใกล้นี้ นอกจากนั้นได้มีการสัมภาษณ์เชิงลึกผู้เชี่ยวชาญ นักวิชาการ ผู้แทนพรรคการเมือง และกลุ่มต่าง ๆ ได้รับความร่วมมืออย่างดียิ่งจากทุกฝ่าย โดยมีระดับหัวหน้าพรรคและผู้นำกลุ่มต่าง ๆ ได้เดินทางมาให้สัมภาษณ์ และเสนอข้อคิดเห็นด้วยตนเอง ขณะนี้ได้ดำเนินการสัมภาษณ์ไปแล้ว 25 ท่าน และจะสัมภาษณ์ต่อไปอีก รวมทั้งสิ้นมากกว่า 50 ท่าน และจะจัดประชุมกลุ่มย่อย หรือ focus group หลังจากได้นำข้อมูลหลัก 11 ประเด็น ผนวกเข้ากับข้อมูลผู้เชี่ยวชาญ จัดประชุมกลุ่มย่อยผู้มีส่วนเกี่ยวข้องอีก 12 ครั้ง เพื่อถกแถลงและสร้างกรอบความเห็นร่วม เพื่อยืนยันประเด็นและสาระสำคัญที่ประชาชนทุกกลุ่มทุกฝ่ายมีความต้องการที่จะปฏิรูปอย่างยั่งยืน ทั้งนี้จะไม่มีการสรุปข้อยุติในระยะนี้หรือแสดงความคิดเห็น โน้มเอียงไปทางใดทางหนึ่ง โดยทั้งหมดนั้น จะดำเนินการให้แล้วเสร็จภายในเดือนกรกฎาคม 2557 และเตรียมข้อมูลไปสู่การปฏิรูปในระยะที่ 2 เมื่อมีการปฏิรูปในระยะที่ 2 จะมีการดำเนินการ โดยสภาปฏิรูป เพื่อจะนำพาประเทศไปสู่ประชาธิปไตย ถ้าเราไม่เริ่มวันนี้ระยะที่ 2 ก็พูดคุยกันไม่รู้เรื่อง อาจจะไปทะเลาะกันในระยะที่ 2
สำหรับการปฏิบัติในระยะที่ 2 อะไรที่เร่งด่วน เช่น การปฏิรูปทางการเมือง ปฏิรูปในเรื่องของกระบวนการยุติธรรม หรืออะไรที่สำคัญที่ประชาชนต้องการ ที่เป็นปัญหาความขัดแย้งทั้งหมดจะต้องแก้ไขให้ได้ภายในระยะเวลา 1 ปีข้างหน้าให้ได้โดยเร็ว อะไรที่ไม่สำเร็จก็ต้องไปในระยะยาว อาจจะมีการลงสัตยาบันกันต่อไปว่ารัฐบาลต่อไปต้องไปดำเนินการต่อ อันนี้ก็เป็นไปตามคำเรียกร้องที่มีมาอยู่แล้วเดิมในอดีตที่ผ่านมาเรื่องการปฏิรูป ทั้งหมดนั้นเป็นเรื่องการเตรียมการ หรือการทำงานของ คสช. วันนี้มีหลายเรื่องที่ประชาชนหลายคนสงสัยมาก ประเด็นสำคัญวันนี้อยากบอกทุกคนให้สบายใจว่า ทุกอย่างมีความก้าวหน้าไปตามลำดับ ถึงแม้อาจจะมีข้อขัดแย้งอยู่บ้าง มีการต่อต้านอยู่บ้าง ผมก็เข้าใจ เห็นใจในทุกภาคส่วน ในเมื่อประชาธิปไตยของเราเดินหน้าไปไม่ได้ก็ขอเวลา เราต้องใช้ความมีสติ มีเหตุมีผลในการที่จะพาประเทศชาติบ้านเมืองให้ปลอดภัยต่อไปในอนาคต
วันนี้มีการปล่อยข่าวว่ามีการเรียกร้องผลประโยชน์จาก คสช. หรือมีคนอ้างว่าสามารถจะจัดเป็นสมาชิกสภาปฏิรูป หรือสมาชิกสภานิติบัญญัติ หรือนายกรัฐมนตรี และรัฐบาล ผมยืนยันยังไม่มีการดำเนินการใดทั้งสิ้น ฉะนั้นอย่าไปเชื่อ อย่าไปให้เขาหลอก อย่าไปเสียผลประโยชน์ให้เขาเป็นการล่วงหน้า ผมยืนยันยังไม่มีการดำเนินการใด ๆ เลยในเรื่องนี้ และยังไม่ใช่เวลา วันนี้เป็นเวลาแห่งการคืนความสุข เป็นเวลาของการเตรียมการ เป็นเวลาในการแก้ไขปัญหาเร่งด่วนให้กับชาติบ้านเมือง และประชาชนที่ลำบาก และเดือดร้อนมาเป็นระยะเวลายาวนาน
วันนี้เราต้องการฟังเสียงประชาชนให้มาก และรวบรวมปัญหาทุกปัญหาไปสู่การปฏิรูป ในระยะที่ 2 และยั่งยืนในอนาคต
ขอขอบคุณทั้งในเสียงติและเสียงชม ซึ่งมีค่ากับเราทุกคนขอให้มั่นใจว่า ถึงแม้เราเป็นทหาร แต่เราเป็นทหารที่มีความตั้งใจ มีหัวใจ ที่จะนำพาประเทศชาติไปด้วยความจริงใจ และไม่แสวงหาผลประโยชน์ ผมยืนยันอีกครั้ง ถ้ามีเรื่องเกี่ยวข้องกับผลประโยชน์ใด ๆ ก็ตาม วันนี้เราจะต้องขจัดผลประโยชน์เหล่านั้น หรือขบวนการทุจริตให้พ้นจากผืนแผ่นดินไทยไปให้ได้ไม่ว่าจะเวลาใดก็ตาม
ระยะเวลาที่ผ่านมามีข่าวจากสื่อมากมาย ทั้งโดยสื่อ ประชาชน ทั้งพูดต่อกันมา ทั้งนี้บางอย่างอาจจะไม่มีข้อมูลที่แท้จริง และยังไม่ครบในทุกด้านจะมีแต่การขยายความขัดแย้งไปมากขึ้น และทำให้การปฏิรูปนั้น เป็นไปด้วยความยากลำบาก ขอระยะเวลาให้กับเราสักระยะหนึ่ง
วันนี้เรานำปัญหาทั้งหมดที่เกิดขึ้น 10 ปี แน่นอนจะแก้ไขไม่ได้ภายใน 10 วัน ซึ่งเป็นไปไม่ได้ แต่เราพยายามทำอย่างเร็วที่สุด มีหลายคนบอกว่า เราแก้ปัญหาได้เร็วจนเกินไปหรือไม่ เป็นประชานิยมหรือไม่ ขอยืนยันอีกครั้งว่า ไม่ใช่ประชานิยม แต่เป็นเรื่องที่เราฟังเสียงจากประชาชน แล้วเราแก้ไขให้ตรงจุด ทำคำตอบให้ตรงกับคำถามที่ท่านสงสัยเท่านั้น และขับเคลื่อนสิ่งที่ติดขัดเล็กน้อยให้ท่าน ผมไม่ต้องการให้เป็นความดีความชอบแก่ คสช.  เพราะเป็นหน้าที่ที่ต้องทำในระหว่างนี้เท่านั้น และพร้อมที่จะนำพาประเทศชาติไปสู่ความสงบสุขอย่างยั่งยืน ขอขอบคุณอีกครั้งหนึ่งที่ทุกฝ่ายอดทนฟังผมมาหลายครั้ง ผมก็พยายามจะทำความเข้าใจสื่อสารกับท่าน ที่ผ่านมาบางครั้งการพูดกับการฟังไม่ต่อเนื่องกัน คนที่พยายามจะพูดก็พูดในสิ่งที่ตัวเองอยากจะพูด ที่อยากจะฟังก็ฟังในสิ่งที่ตัวเองอยากจะฟัง
วันนี้เราสื่อสารกัน ผมรับจากท่านมาก็ตอบท่านไปผ่านสื่อ พบปะกันทุกวันศุกร์หวังว่าจะได้รับความเข้าใจและได้รับความร่วมมือจากทุกภาคส่วนมากขึ้นเรื่อย ๆ ขอขอบคุณอีกครั้ง ขอให้มีความสุขทุกท่าน  สวัสดี

泰國現政府向七國代表呈述 คณะหอการค้าต่างประเทศในประเทศไทย (7 ประเทศ) เข้าพบ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา





อังกฤษ-ฝรั่งเศส สหรัฐ-เยอรมันฯ มั่นใจการลงทุน!
“บิ๊กตู่” สั่งเร่งเครื่องคืนความสุขคนไทย ไล่บี้ให้ถึงต้นตอแก๊งโก่งราคาหวยรัฐ ต้อนรับกลุ่มนักลงทุน 7 ชาติยักษ์ใหญ่กลุ่มอเมริกา-อียู งัดสารพัดมาตรการส่งเสริมการลงทุนหวังคู่ค้าขยายการลงทุน ธปท.รับเปลี่ยนรูปแบบธนบัตรยาก “ปนัดดา” วาง 3 แนวทางปฏิรูปราชการ ซัดประชานิยมทำคนไทยเป็นซอมบี้ “สีหศักดิ์” แจงทูตญี่ปุ่นพัฒนาการไทยตามแนวโรดแม็ป ก.พลังงาน-ปตท.ประสานเสียงโต้ข้อครหาซูเอี๋ย บริษัทข้ามชาติลักลอบขุดน้ำมันดิบเมืองมะขาม ยันได้สัมปทานตามกฎหมาย จวกพวกปั่นกระแสไทยรวยน้ำมัน ป.ป.ช.รำดาบสอบคดี “ปู” ซุกนาฬิกาหรู “จเร” สั่งเด้ง ขรก. สาย “สุวิจักขณ์” ผบช.ภ.8 เซ็นย้ายด่วน ผบก.ภ. จ.นครศรี-ผกก.เมือง
ภารกิจเดินหน้าสู่เป้าหมายการคืนความสุขให้คนไทยของ คสช.ยังดำเนินต่อไปครอบคลุมเกือบทุกด้าน ขณะที่ยุทธศาสตร์สร้างความเชื่อมั่นให้นักลงทุนต่างชาติก็ทำควบคู่ไปด้วย ล่าสุด พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้า คสช. เชิญผู้แทนหอการค้า 7 ชาติยักษ์ใหญ่ เข้าหารือแผนการลงทุนในประเทศไทย
คสช.ไล่ถึงต้นตอโก่งราคาหวยรัฐ
เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 19 มิ.ย. ที่กองบัญชาการกองทัพบก (บก.ทบ.) ถนนราชดำเนิน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ. หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) มอบหมายให้ พล.อ.วิชิต ศรีประเสริฐ หัวหน้าคณะฝ่ายเสนาธิการประจำผู้บังคับบัญชา เป็นประธานการประชุมเพื่อติดตามการทำงานของฝ่ายต่างๆของ คสช. ทั้งฝ่ายความมั่นคง ฝ่ายเศรษฐกิจ ฝ่ายกฎหมาย และกระบวนการยุติธรรม รวมทั้งส่วนงานขึ้นตรงกับหัวหน้า คสช. โดยที่ประชุมพูดคุยถึงปัญหาการค้าประเวณี รวมถึงปัญหาอาวุธสงครามที่กองกำลังรักษาความสงบ (กกล.รส.) แต่ละพื้นที่ติดตามตรวจยึดได้ต่อเนื่องด้วย โดย พล.อ.วิชิตกล่าวว่า ปัญหาอาวุธสงครามมีความเชื่อมโยงทั้งเรื่องปัญหาแรงงาน ปัญหายาเสพติด ปัญหาการลักลอบตัดไม้ทำลายป่า ทุกส่วนที่เกี่ยวข้องต้องร่วมกันหามาตรการที่เข้มงวดต่อเนื่อง จัดการกับขบวนการผิดกฎหมายเหล่านี้ เพื่อสร้างภูมิคุ้มกันถาวรให้กับเยาวชนรุ่นหลัง ส่วนการแก้ปัญหาสลากกินแบ่งรัฐบาลที่ขายเกินราคา ต้องให้ทุกส่วนงานช่วยกันคิดเพื่อไม่ให้ส่งผลกระทบกับคนระดับรากหญ้า ปัญหานี้ต้องแก้ที่ต้นเหตุจะทำอย่างไรกับผู้ที่เข้ามาแสวงหาผลประโยชน์ จะยังไม่ดูที่การขายลอตเตอรี่เกินราคาในขณะนี้เพราะถือว่าเป็นปัญหาปลายเหตุ
ย้ำนักลงทุนเข้ามาช่วยพยุงชาติ
ต่อมาเวลา 14.00 น. ที่ บก.ทบ. พล.อ.ประยุทธ์ ได้เชิญผู้แทนหอการค้าต่างประเทศ 7 ประเทศที่อยู่ในกลุ่มอเมริกาและสหภาพยุโรป ประกอบด้วย สหรัฐอเมริกา อังกฤษ ฝรั่งเศส เยอรมนี ออสเตรเลีย แคนาดา และแอฟริกาใต้ เข้าหารือเรื่องการค้าการลงทุน หลังจากที่ประชุมคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) อนุมัติแผนส่งเสริมการลงทุน 18 โครงการ มูลค่ากว่า 1.2 แสนล้านบาท โดย พล.อ.ประยุทธ์กล่าวขอบคุณผู้ที่มาร่วมหารือ พร้อมกับชี้แจงการเข้ามาควบคุมสถานการณ์และบริหารประเทศว่า มาจากเหตุผลหลายประการ เช่น ฝ่ายนิติบัญญัติ ฝ่ายบริหาร และฝ่ายตุลาการ มีปัญหาจนไม่สามารถทำหน้าที่ได้อย่างเต็มที่ และจะทำอย่างไรให้ประชาธิปไตยของไทยยั่งยืนสมบูรณ์เหมือนกับประเทศอื่น คสช.จึงต้องเข้ามาพยุงประชาธิปไตยให้มั่นคงต่อไป
เร่งขยายร่วมมือการค้ากลุ่มอียู
พล.อ.ประยุทธ์ยังกล่าวให้ความมั่นใจต่อผู้แทนหอการค้า 7 ประเทศ พร้อมอธิบายถึงแผนโรดแม็ป 3 ขั้นตอน โดยจะมีการแก้ไขกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการค้าระหว่างประเทศ และเตรียมเจรจาด้านการค้าการลงทุนกับกลุ่มประเทศต่างๆอย่างเร่งด่วน พร้อมเร่งขยายความร่วมมือการค้าการลงทุน โดยเฉพาะในกลุ่มสหภาพยุโรปให้มากขึ้น สิ่งที่กำลังดำเนินการในขณะนี้ ขอให้นักลงทุนต่างประเทศมั่นใจการทำงานภายใต้การดูแลของ คสช. อาทิ การจัดทำระบบจดทะเบียนนิติบุคคลอิเล็กทรอนิกส์ และระบบให้บริการงบการเงินผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ เป็นต้น รวมทั้งผลักดันกฎหมายการค้าและการพาณิชย์ที่ยังค้างอยู่ให้เรียบร้อย
ถกสภา กห.นัดแรกหลังยึดอำนาจ
ช่วงเช้าวันเดียวกัน ที่กระทรวงกลาโหม พล.อ.สุรศักดิ์ กาญจนรัตน์ รองปลัดกระทรวงกลาโหม รักษาราชการแทนปลัดกระทรวงกลาโหม ทำหน้าที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมเป็นประธานการประชุมสภากลาโหม โดยมี พล.อ.ธนะศักดิ์ ปฏิมาประกร ผบ.ทหารสูงสุด พล.ร.อ.ณรงค์ พิพัฒนาศัย ผบ.ทร. พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง ผบ.ทอ. และผู้บังคับหน่วยขึ้นตรงกระทรวงกลาโหมเข้าร่วมประชุมอย่างพร้อมเพรียง ขณะที่ พล.อ.ประยุทธ์ติดภารกิจที่ บก.ทบ. จึงไม่ได้เข้าร่วมประชุม ซึ่งที่ประชุมรับฟังรายงานสถานการณ์ต่างๆ และความคืบหน้าการ ดำเนินงานของกระทรวงกลาโหมในช่วงที่ผ่านมา รวมถึงการพิจารณาแต่งตั้งทดแทนสมาชิกสภากลาโหมที่จะหมดวาระลงในปีนี้ และการเตรียมความพร้อมในการรับมือภัยพิบัติที่จะเกิดขึ้นในอนาคต ถือเป็นการประชุมสภากลาโหมครั้งแรกหลังการยึดอำนาจของ คสช.
ธปท.รับเปลี่ยนแบบธนบัตรยาก
นางรุ่ง มัลลิกะมาส โฆษกธนาคารแห่งประ-เทศไทย (ธปท.) กล่าวถึงแนวคิดของ คสช. ที่จะให้ยกเลิกธนบัตรแบบเก่า ที่ ธปท.ไม่ได้จัดพิมพ์อยู่ในปัจจุบัน เพื่อดึงเงินใต้ดินและเงินผิดกฎหมายที่เก็บซ่อนไว้ขึ้นมาอยู่ในระบบว่า ธปท.ยังไม่ได้รับการติดต่ออย่างเป็นทางการ จึงยังไม่สามารถให้คำตอบที่ชัดเจนถึงความเป็นไปได้หรือเป็นไปไม่ได้ แต่หากพิจารณาจากประสบการณ์ในต่างประเทศ การจะยกเลิกธนบัตรรุ่นใดรุ่นหนึ่งต้องเป็นเพราะตัวธนบัตรมีปัญหา เช่น เป็นรุ่นที่มีการปลอมแปลงสูง หรือในช่วงนั้นประเทศนั้นมีปัญหาอัตราเงินเฟ้อสูง ทำให้ธนบัตรเสื่อมค่าลงอย่างรวดเร็ว จึงมีการยกเลิกธนบัตรบางรุ่นไป หากจะให้ยกเลิกธนบัตรบางรุ่นไป และให้พิมพ์ธนบัตรใหม่ขึ้นมาทดแทน มีทั้งข้อดีและข้อเสีย โดยข้อเสีย อาจทำให้มีต้นทุนการพิมพ์ธนบัตรเพิ่มขึ้น และมีปัญหาการปรับตัวของประชาชนในการแลกคืนธนบัตรบ้าง อย่างไรก็ตาม ธปท.ได้เปลี่ยนแบบธนบัตรใหม่ในทุกช่วงเวลาหนึ่งเป็นประจำอยู่แล้ว ขณะนี้อยู่ระหว่างการเปลี่ยนธนบัตรจากแบบ 15 เป็นแบบ 16 โดยมีการเปลี่ยนมาแล้ว 3 รุ่น คือ รุ่นชนิดราคา 20 บาท รุ่นชนิดราคา 50 บาท และรุ่นชนิดราคา 500 บาท แต่ธนบัตรในแบบ 1-15 ก็ยังใช้ชำระหนี้ตามกฎหมายได้อยู่ ยังไม่มีการยกเลิกธนบัตรแบบใดในขณะนี้
“ปนัดดา” วางแนวปฏิรูปราชการ
เมื่อเวลา 11.00 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล ม.ล.ปนัดดา ดิศกุล รองปลัดกระทรวงมหาดไทย ปฏิบัติหน้าที่ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมปฏิรูประบบราชการ ร่วมกับตัวแทนสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ (ก.พ.ร.) และสำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน (ก.พ.) เพื่อรับฟังแนวทาง โดย ม.ล.ปนัดดากล่าวต่อที่ประชุมว่า หลักการปฏิรูประบบราชการมี 3 แนวทาง คือ 1.สำนักงาน ก.พ.ร. สำนักงาน ก.พ. ต้องเป็นแบบอย่างการปฏิบัติงาน 2.ความหมายของการปฏิบัติตนในฐานะข้าราชการของแผ่นดิน ข้าราชการของพระบาท สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว อยากให้เกิดความชัดเจนไม่ใช่พูดกันอย่างเดียว ที่พอถึงวันก็ไปถวายสัตย์ปฏิญาณตามพิธีการ แต่เมื่อนำไปปฏิบัติกลายเป็นความบกพร่อง ฉะนั้น เมื่อถวายสัตย์ต้องปฏิบัติให้ได้ตามนั้น และ 3.การปฏิบัติต่อผู้บังคับบัญชา ผู้ร่วมงาน ผู้ใต้บังคับบัญชา และประชาชน จะทำอย่างไรให้ดูพอดี พองาม ไม่ใช่ประจบประแจง
ซัดประชานิยมทำคนไทยซอมบี้
วันเดียวกัน ม.ล.ปนัดดา ดิศกุล โพสต์ลงเฟซบุ๊กส่วนตัวว่า ปัญหาชาติที่เกิดขึ้นหลายปีที่ผ่านมา มองให้ลึกลงไปหลักคิดประชานิยม ไม่ว่าจะในเรื่องใดเป็นเรื่องที่น่ารังเกียจ อย่างปัญหาการทุจริตข้าวเกิดจากความไม่มีน้ำใจต่อพี่น้องเกษตรกรและลูกหลาน ไปคิดทำเป็นเกมสนุกสนานจนเป็นหนี้เป็นสินกันทั่วบ้านทั่วเมือง การคืนภาษีรถยนต์คันแรก โครงการบริหารจัดการน้ำ รถไฟความเร็วสูง การไม่ให้ผู้คนเรียนรู้วัฒนธรรมประเพณีของชาติ ไม่เคารพจารีตประเพณีอันศักดิ์สิทธิ์ของแผ่นดิน ยุยงให้ประชาชนในชาติเกิดความแตกแยกเป็นจังหวัด เป็นภาค เพราะการเมืองที่ปราศจากจรรยาบรรณ แทนที่จะพูดว่าจังหวัดทั้งหลายคือความเป็นประเทศไทยเดียวกัน ใต้ร่มพระบารมีเดียวกัน เราต่างพึ่งพาอาศัยกัน คนเพียงส่วนน้อยนิดเท่านั้นที่อาจหลงทางเดิน หลงคารม หลงความร่ำรวย ข้าราชการ คนไทยต้องช่วยกันปรับปรุงตัวปรับเปลี่ยนแนวคิด เลิกถือเนื้อถือตัวหรือแบ่งชนชั้นวรรณะ เลิกเอารัดเอาเปรียบ เลิกทุจริตคดโกงอย่างเด็ดขาด ซื่อสัตย์สุจริต ยึดหลักธรรมาภิบาลในการครองตน มิเช่นนั้นมีหวังได้เห็นซอมบี้เดินกันเต็มเมือง เดี๋ยวจะหาว่าไม่เตือน
มท.คุมเข้มสถานบันเทิงแหล่งยา
ที่กระทรวงมหาดไทย นายวิบูลย์ สงวนพงศ์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวถึงภารกิจเร่งด่วนของกระทวงมหาดไทยที่ต้องขับเคลื่อนเพิ่มเติมว่า มีการประชุมกำหนดมาตรการป้องกันการทุจริตในวงราชการเพิ่มเติม เป็นการเพิ่มเติมมาตรการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด และการทบทวนขั้นตอนของกระทรวงมหาดไทยเพื่อรองรับมาตรการของ คสช. ที่อาจมีมาตรการเพิ่มเติมสำหรับแรงงานต่างด้าว สำหรับเรื่องยาเสพติด ในระยะ 2-3 เดือนต่อจากนี้ จะกวดขันสถานบริการซึ่งเป็นจุดแพร่กระจายยาเสพติดไม่ให้กระทำความผิด รวมถึงพยายามลดความรุนแรงของการแพร่ระบาดในพื้นที่สีแดง 3,250 หมู่บ้าน โดยใช้กลไกนายอำเภอ กำนัน ผู้ใหญ่บ้านช่วยกันขับเคลื่อน
ขรก.เฮจ่อขยายอัตรา นอภ.9
นายวิบูลย์กล่าวว่า นอกจากนี้ได้มอบหมายให้นายศิริพงษ์ ห่านตระกูล อธิบดีกรมการปกครอง เป็นประธานในการประชุมกำหนดแนวทางการปรับตำแหน่งอำนวยการระดับสูง (นายอำเภอ) จำนวน 340 ตำแหน่ง โดยตำแหน่งนายอำเภออำนวยการสูงมีอยู่ 411 ตำแหน่ง หากพิจารณาจากจำนวนอำเภอทั้งหมด 878 อำเภอ ยังมีโอกาสที่จะปรับตำแหน่งนายอำเภอที่ยังไม่ได้ตำแหน่งอำนวยการสูงได้อีก ซึ่งไม่ได้ปรับมานานพอสมควร การปรับตำแหน่งครั้งนี้จึงเป็นผลดีต่อการสร้างขวัญและกำลังใจให้กับนายอำเภอ
ด้านนายศิริพงษ์กล่าวว่า สำหรับเกณฑ์ในการพิจารณา จะวัดตามหลักเกณฑ์ที่กรมการปกครองกำหนดไว้ โดยพิจารณาจากอำเภอที่มีผลงานมาเป็นเกณฑ์หลัก ให้ความสำคัญกับปริมาณงานและคุณภาพงาน มากกว่าการพิจารณาโดยยึดตามตัวบุคคล
พร้อมจัดประชุมรับมือภัยพิบัติ
จากนั้นเวลา 15.00 น. ที่กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ม.ล.ปนัดดา ดิศกุล ปฏิบัติหน้าที่ปลัดสำนักนายกฯ เป็นประธานแถลงความพร้อมการเป็นเจ้าภาพการจัดประชุมระดับรัฐมนตรีแห่งเอเชียว่าด้วยการลดความเสี่ยงจากภัยพิบัติ ครั้งที่ 6 พ.ศ.2557 (The 6th Asian Ministerial Conference on Disaster Risk Reduction 2014-AMCDRR) ในวันที่ 22-26 มิ.ย. ที่ศูนย์ประชุมบางกอกคอนเวนชั่นเซ็นเตอร์ แอท เซ็นทรัลเวิลด์ กรุงเทพฯ โดย ม.ล.ปนัดดากล่าวว่า จะมีผู้แทนรัฐบาลระดับรัฐมนตรี หัวหน้าหน่วยงานด้านการจัดการภัยพิบัติทั้งในและต่างประเทศกว่า 2,500 คน เข้าร่วมประชุม เพื่อร่วมกันผลักดันกลไกเชิงนโยบายในการจัดการภัยพิบัติของภูมิภาคเอเชียและระดับโลกให้เป็นรูปธรรม ประเด็นสำคัญที่จะหารือได้แก่ การส่งเสริมการลงทุนเพื่อทำให้ประเทศและชุมชนพร้อมรับและฟื้นกลับเร็วจากภัยพิบัติ ซึ่งประเทศไทยได้ผลักดันให้ประเด็นดังกล่าวเป็นแนวทางสำคัญที่บรรจุอยู่ในแผนการดำเนินงานลดความเสี่ยงจากภัยพิบัติของแต่ละประเทศ
ชูโครงการพระราชดำริจัดการน้ำ
นายฉัตรชัย พรหมเลิศ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) กล่าวว่า ในฐานะหน่วยงานเจ้าภาพหลักจัดการประชุม ให้ความสำคัญกับการสร้างการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วน จึงกำหนดรูปแบบการจัดกิจกรรมที่หลากหลาย ทั้งการประชุมเชิงวิชาการในระดับรัฐมนตรี ผู้เชี่ยวชาญ การประชุมคู่ขนานของกลุ่มผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย การจัดตลาดนัดวิชาการ การนำเสนอวีดิโอคลิป การศึกษาดูงานโครงการพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวด้านการบริหารจัดการน้ำ
พล.ต.ต.วรัตม์ชัย ศรีรัตนวุฑฒิ ผู้บังคับการกองแผนงานกิจการพิเศษ สำนักงานยุทธศาสตร์ตำรวจ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า ได้วางมาตรการรักษาความปลอดภัยในระดับสูงสุด ทั้งบุคคลและภาพรวมของการประชุม โดยสนธิกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ ดูแลความปลอดภัยของครอบคลุมทุกพื้นที่
แจงทูตญี่ปุ่นพัฒนาการไทย
วันเดียวกันเวลา 11.00 น. ที่กระทรวงการต่างประเทศ นายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว ปลัดกระทรวงการต่างประเทศ เชิญนายชิเกะคะสุ ซะโต เอกอัครราชทูตญี่ปุ่นประจำประเทศไทย เข้าพบเพื่อชี้แจงสถานการณ์ล่าสุดของไทย และประเด็นที่เกี่ยวข้องความสัมพันธ์โดยรวมระหว่างไทยและญี่ปุ่น จากนั้นนายเสข วรรณเมธี อธิบดีกรมสารนิเทศ และโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ แถลงว่า นายสีหศักดิ์ใช้โอกาสนี้เล่าถึงพัฒนาการทางการเมืองไทย โดยเฉพาะโรดแม็ปส่งเสริมความปรองดอง ก่อนนำไปสู่การเลือกตั้ง ซึ่งเป็นพื้นฐานสำคัญที่สร้างความเข้มแข็งให้กับไทย และขณะนี้ได้ผ่อนคลายมาตรการต่างๆ อาทิ การยกเลิกเคอร์ฟิว และสนับสนุนสิทธิมนุษยชน
ความร่วมมือเดินหน้าต่อ
นายเสขกล่าวว่า นายสีหศักดิ์ยังชี้แจงแผนงานด้านเศรษฐกิจว่า คณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) ได้พิจารณาการเบิกจ่ายงบประมาณปี 2557 ที่ยังคงเหลือยู่ และกำลังเตรียมพิจารณางบประมาณปี 2558 เพื่อใช้ในการลงทุนให้ทันเวลา พร้อมกับยืนยันว่าไทยจะให้ความปลอดภัยแก่นักลงทุนและนักท่องเที่ยวชาวญี่ปุ่น ซึ่งเอกอัครราชทูตญี่ปุ่นกล่าวขอบคุณไทยที่ให้ความร่วมมือมาอย่างยาวนาน และให้ข้อมูลคืบหน้าพัฒนาการทางการเมือง และนโยบายด้านเศรษฐกิจที่ชัดเจน โดยญี่ปุ่นเห็นว่าความร่วมมือระหว่างไทย-ญี่ปุ่น ต้องเดินหน้าต่อไป พร้อมกับยินดีที่นายสีหศักดิ์จะปฏิบัติหน้าที่ รมว.ต่างประเทศ เพื่อเดินทางเยือนประเทศญี่ปุ่น คาดว่าในเดือน ก.ค.นี้ โดยขณะนี้ยังอยู่ในช่วงนัดหมายของทั้งสองฝ่าย
โต้ซูเอี๋ยลักขุดน้ำมันเมืองมะขาม
ที่ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล นายทรงภพ พลจันทร์ อธิบดีกรมเชื้อเพลิงธรรมชาติ กล่าวถึงกระแสข่าวมีเจ้าหน้าที่ทหารกองบัญชาการกองทัพไทย และตำรวจกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
(บก.ปทส.) เข้าตรวจสอบการลักลอบขุดเจาะน้ำมันดิบของบริษัทเอกชนที่ ต.บ่อรัง อ.วิเชียรบุรี จ.เพชรบูรณ์ว่า กรณีดังกล่าว พ.ท.รัฐเขต แจ้งจำรัส อดีตกรรมาธิการการพลังงาน วุฒิสภา ร้องทุกข์กล่าวโทษบริษัท อีโค่ โอเรียนท์ รีซอสเซส (ประเทศไทย) จำกัด มีสัญชาติฮ่องกง ว่าลักลอบขุดเจาะน้ำมันดิบในพื้นที่ปฏิรูปที่ดินเพื่อการเกษตร โดยไม่เสียค่าภาคหลวง แต่จากการลงพื้นที่ของเจ้าหน้าที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง พบว่าเมื่อวันที่ 16 ธ.ค.2552 บริษัทอีโค่ฯได้รับอนุมัติผลิตบ่อรังเหนือ 39.39 ตารางกิโลเมตร มีเนื้อที่บางส่วนประมาณ 43 ไร่ 3 งาน 35 ตารางวา อยู่ในเขตที่ดิน สปก.ท้องที่ จ.เพชรบูรณ์ โดยมีฐานผลิตจำนวน 6 ฐาน
ยันให้สัมปทานถูกกฎหมาย
นายทรงภพกล่าวว่า แต่วันที่ 2 พ.ค.2555 บริษัทได้รับหนังสือแจ้งจาก สปก.ว่าพื้นที่ผลิตทั้ง 6 ฐาน อยู่ในพื้นที่ของ สปก.จึงได้หยุดทำการผลิตโดยทันที แต่ภายหลังมีการตรวจสอบจาก สปก. และมีหนังสือลงวันที่ 25 ธ.ค.2555 แจ้งไปยังบริษัทว่า พื้นที่ L44-v ซึ่งเป็น 1 ใน 6 ฐานผลิต ไม่อยู่ในเขตปฏิรูปที่ดิน บริษัทจึงเริ่มทำการผลิตปิโตรเลียมในพื้นที่ดังกล่าวเพียงแหล่งเดียวอีกครั้ง ในวันที่ 26 ธ.ค.2555 ปัจจุบันมีอัตราการผลิตน้ำมันดิบเฉลี่ย 142 บาร์เรลต่อวัน ดังนั้นกรมเชื้อเพลิงธรรมชาติขอยืนยันว่าประเด็นลักลอบผลิต และเรื่องไม่เสียค่า ภาคหลวงปิโตรเลียม ไม่เป็นความจริงแต่อย่างใด ภาพรวมปัจจุบันประเทศไทยมีทรัพยากรปิโตรเลียมที่ขุดได้จากแปลงสัมปทานภายในประเทศไม่ถึงร้อยละ 1 ของโลก และมีไม่เพียงพอต่อความต้องการใช้ภายในประเทศ จัดอยู่ในประเทศที่ต้องนำเข้าทั้งน้ำมันดิบและก๊าซธรรมชาติ
จวกพวกปั่นกระแสไทยรวยน้ำมัน
นายทรงภพกล่าวต่อว่า ฉะนั้นอย่าไปเชื่อว่าประเทศไทยเหมือนซาอุดีอาระเบีย ไทยไม่ได้มีน้ำมันมากขนาดนั้น วันนี้ก๊าซธรรมชาติผลิตได้ 3,600 ล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวัน ซึ่งไม่เพียงพอ ต้องนำเข้าจากพม่าประมาณ 1,000 ล้านลูกบาศก์ฟุต และต้องเสริมด้วยแอลพีจี ซึ่งมีราคาสูงอีกประมาณ 200 ล้านบาร์เรลต่อวัน หากก๊าซธรรมชาติในอ่าวไทยวันนี้สามารถผลิตเท่าที่สำรวจได้ จะไปได้อีก 7 ปี ฉะนั้นในอนาคตถ้าก๊าซธรรมชาติลดลง เราต้องมาเสริมด้วยแอลพีจี เชื่อว่าภายใน 10 ปี ค่าไฟจะเพิ่มขึ้น 50 เปอร์เซ็นต์ เพราะ 70 เปอร์เซ็นต์ของก๊าซธรรมชาตินำมาผลิตไฟฟ้า
ปตท.ปัดไม่รู้เห็นแค่เป็นผู้รับซื้อ
นายสรากร กุลธรรม รองกรรมการผู้จัดการใหญ่หน่วยธุรกิจการค้าระหว่างประเทศ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า บริษัท อีโค่ฯ เป็นผู้รับสัมปทานปิโตรเลียมตาม พ.ร.บ.ปิโตรเลียม 2514 มีสิทธิดำเนินงานประกอบกิจการด้านปิโตรเลียมในพื้นที่ผลิตสัมปทานปิโตรเลียม เลขที่ 3/2546/60 แปลงสำรวจบนบกหมายเลข L44/43 และสัมปทานเลขที่ 5/2546/62 แปลงสำรวจบนบกหมายเลข L33/43 โดยปัจจุบันมีอัตราการผลิตน้ำมันดิบทั้งหมดเพียง 4,790 บาร์เรลต่อวัน ปตท.และบริษัทในกลุ่ม ปตท. ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ในการประกอบกิจการผลิตปิโตรเลียมใน จ.เพชรบูรณ์ ตามที่เป็นข่าว นอกจากการรับซื้อน้ำมันดิบทั้งหมดเพื่อใช้ภายในประเทศ ที่มีการทำสัญญาซื้อขายถูกต้องตามกฎหมายมาตั้งแต่ปี 2551 จนถึงปี 2561 โดยส่งต่อให้โรงกลั่นในประเทศ ซึ่งปริมาณดังกล่าวคิดเป็นเพียง 2 เปอร์เซ็นต์ ของการผลิตน้ำมันดิบในประเทศ ขณะที่ไทยต้องนำเข้าน้ำมันดิบถึง 80 เปอร์เซ็นต์
กกต.โชว์เครื่องลงคะแนนสุดเจ๋ง
นายศุภชัย สมเจริญ ประธานกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) กล่าวภายหลังตรวจดูความคืบหน้าพัฒนาการเครื่องลงคะแนนเลือกตั้งแบบอิเล็กทรอนิกส์ รุ่นที่ 4 ที่มีการพัฒนามาตั้งปี 2546 ว่า หากสามารถนำเครื่องดังกล่าวมาใช้ในการเลือกตั้งได้ จะช่วยประหยัดงบประมาณที่ไม่ต้องจัดพิมพ์บัตรเลือกตั้ง และยังป้องกันการปิดล้อมการพิมพ์และการจัดส่งบัตรเลือกตั้งได้ ส่วนการป้องกันการทุจริตนั้นเครื่องดังกล่าวเป็นระบบปิด ไม่ได้เชื่อมโยงกับคอมพิวเตอร์ที่จะออนไลน์เข้ามาเปลี่ยนแปลงข้อมูลได้ แต่ต้องประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนเกิดการยอมรับ และอาจต้องแก้ไขกฎหมายที่เกี่ยวข้องต่อไป
ป.ป.ช.รำดาบสอบ “ปู” ซุกนาฬิกาหรู
อีกเรื่อง นายวรวิทย์ สุขบุญ รองเลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) กล่าวถึงการพิจารณาไต่สวน น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ปกปิดบัญชีทรัพย์สินและหนี้สิน กรณีไม่แจ้งบัญชีทรัพย์สินในส่วนของนาฬิกาหรูมูลค่า 2.5 ล้านบาทว่า ที่ประชุม ป.ป.ช.ได้พิจารณาสำนวนการไต่สวนที่คณะอนุกรรมการ ป.ป.ช.ส่งเรื่องมาให้ โดยเห็นว่า พยานหลักฐานที่คณะอนุกรรมการฯรวบรวมมายังมีข้อมูลไม่เพียงพอที่จะวินิจฉัยได้ จึงส่งประเด็นดังกล่าวให้คณะอนุกรรมการตรวจสอบบัญชีทรัพย์สินอดีตรัฐมนตรีในรัฐบาลยิ่งลักษณ์ จำนวน 5 คน ที่มีนายณรงค์ รัฐอมฤต กรรมการ ป.ป.ช.เป็นประธานคณะอนุกรรมการ ดำเนินการตรวจสอบข้อมูลต่อไป เนื่องจากคณะอนุกรรมการชุดนี้มีหน้าที่ตรวจสอบบัญชีทรัพย์สินอยู่แล้ว ให้เป็นผู้พิจารณาว่าต้องตรวจสอบข้อมูลหลักฐานในประเด็นใดเพิ่มเติมบ้าง แต่ยังไม่สามารถระบุได้ว่าจะใช้เวลาตรวจสอบเพียงใด
“เรืองไกร” ทวงสอบบัญชี “เทือก”
ด้านนายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ คณะทำงานฝ่ายกฎหมายพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า วันที่ 20 มิ.ย. จะยื่นเรื่องต่อประธาน ป.ป.ช.ให้ตรวจสอบมาตรฐานการทำงานของ ป.ป.ช.โดยมีสาระสำคัญ ดังนี้ ขอทราบความคืบหน้าผลตรวจสอบการแสดงบัญชีทรัพย์สินของนายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการ กปปส. กรณีที่แสดงหนี้สินการกู้เงินจากธนาคารอิสลาม และกู้เงินจากบริษัทศรีสุบรรณฟาร์มไว้ทางด้านเครดิต มูลค่ารวมกว่า 300 ล้านบาท โดยไม่ปรากฏคู่บัญชีของการกู้เงินที่ควรมีทางด้านเดบิทในประเภทบัญชีทรัพย์สิน ทราบว่ามีการสอบถามไปยังธนาคารอิสลามมาเป็นเวลาเกือบปีแล้ว แต่เรื่องยังค้างอยู่ในขั้นตอนตรวจสอบของ ป.ป.ช.และขอให้ตรวจสอบกรณีนายวิชา มหาคุณ กรรมการ ป.ป.ช.แต่งหนังสือออกจำหน่าย อาทิ กฎหมายกับความรัก การป้องกันและการแก้ปัญหายาเสพติด คำอธิบายกฎหมายล้มละลายและการฟื้นฟูกิจการของลูกหนี้ ถือว่าเข้าลักษณะอันต้องห้ามของกรรมการ ป.ป.ช. ตามความใน พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 มาตรา 11 หรือไม่ เพื่อให้เกิดความโปร่งใสและเป็นธรรมกับทุกฝ่าย เพื่อสนองตอบต่อประกาศ คสช. ฉบับที่ 63/2557
“วัชระ” ร้อง คสช.รื้อคดี “เอกยุทธ”
ขณะที่นายวัชระ เพชรทอง อดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ได้ยื่นหนังสือถึง พล.อ.ประยุทธ์ขอให้รื้อฟื้นคดีฆาตกรรมนายเอกยุทธ อัญชันบุตร เพื่อประโยชน์แห่งรัฐและการบังคับใช้กฎหมายที่เที่ยงตรง โดยให้หน่วยงานราชการอื่นที่ไม่ใช่สำนักงานตำรวจแห่งชาติดำเนินการสอบสวนเพิ่มเติม หาผู้กระทำผิดที่แท้จริงและผู้ว่าจ้างตามกฎหมาย และขอให้ดำเนินการทางวินัยและพิจารณาความเหมาะสมในการปฏิบัติหน้าที่ของนายจำลอง สิงห์โตงาม ผอ.สถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย หลังมีคำสั่งให้ น.ส.เจริญศรี หงส์ประสงค์ ผอ.ส่วนผลิตข่าวและรายการข่าว สถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย ยุติปฏิบัติหน้าที่ หลังนำเสนอข่าวของตน จึงขอให้พิจารณาความเหมาะสมในการทำหน้าที่ของนายจำลอง รวมไปถึงนายอภินันท์ จันทรังษี อธิบดีกรมประชาสัมพันธ์ ในฐานะผู้กำกับรับผิดชอบ
“จเร” สั่งเด้ง ขรก.สาย “สุวิจักขณ์”
ผู้สื่อข่าวรายงานจากรัฐสภาว่า นายจเร พันธุ์เปรื่อง รองเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร รักษาราชการแทนเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร มีคำสั่งสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ที่ 1184/2557 ย้ายและแต่งตั้งข้าราชการรัฐสภาสามัญ 16 ราย อาทิ น.ส.สุนทร รักเมือง ผอ.สำนักการคลังและงบประมาณ ไปเป็นผู้ตรวจราชการ นางพรรษมนต์ ไทยวัฒนานุกูล ผู้ตรวจราชการ ไปเป็น ผอ.สำนักการคลังและงบประมาณ นายอภิชาติ คำทอง ผู้ตรวจราชการ ไปเป็น ผอ.สำนักพัฒนาบุคลากร นางบังอร มาลาศรี ผอ.สำนักพัฒนาบุคลากร ไปเป็นผู้ตรวจราชการ นายประวิช ตั้งใจมั่น ผู้ตรวจราชการไปเป็น ผอ.สำนักประชาสัมพันธ์ น.ส.กัลยรัชต์ ขาวสำอางค์ ผอ.สำนักประชาสัมพันธ์ ไปเป็นผู้ตรวจราชการ ซึ่งเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ว่าเป็นการย้ายล้างบางข้าราชการที่เติบโตมาในยุคนายสุวิจักขณ์ นาควัชระชัย เป็นเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร แต่ขณะนี้ถูกคำสั่ง คสช.ให้ไปปฏิบัติงานสำนักนายกฯ
นายจเรกล่าวว่า การแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการครั้งนี้เป็นการแต่งตั้งเพื่อความเหมาะสมในการปฏิบัติหน้าที่ไม่ใช่การลงโทษ เป็นการย้ายออกจากหน้าที่ที่เคยรับผิดชอบ โดยเฉพาะโครงการต่างๆ ที่มีการร้องเรียน ซึ่งจะมีการตรวจสอบต่อไป และอาจมีการตั้งคณะกรรมการขึ้นมาตรวจสอบด้วย
ย้ายด่วน ผบก.ภ.จ.นครศรี-ผกก.เมือง
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า พล.ต.ท.ปัญญา มาเม่น ผบช.ภ.8 ลงนามคำสั่ง ตร.ภ.8 ที่ 324/2557 ลงวันที่ 19 มิ.ย.2557 ให้ พล.ต.ต.พชร บุญญสิทธิ์ ผบก.ภ.จ.นครศรีธรรมราช มาปฏิบัติราชการที่ ตร.ภ.8 โดยให้ขาดจากการปฏิบัติหน้าที่ทางตำแหน่งเดิม และลงนามคำสั่ง ตร.ภ.8 ที่ 326/2557 ให้ พ.ต.อ.สมพงศ์ ทิพย์อาภากุล ผกก.สภ.เมืองนครศรีธรรมราช ปฏิบัติราชการที่ ตร.ภ.8 โดยให้ พ.ต.อ.ภูดิศ นรสิงห์ รอง ผบก.ภ.จ.นครศรีธรรมราช รักษาราชการแทน ตั้งแต่วันที่มีคำสั่งเป็นต้นไปจนกว่าจะมีคำสั่งเปลี่ยนแปลง ด้าน พ.ต.อ.สมพงศ์กล่าวว่า ไม่รู้สาเหตุที่ถูกย้าย เมื่อผู้บังคับบัญชามีคำสั่งก็พร้อมปฏิบัติตาม
สำหรับคำสั่งย้ายด่วนนายตำรวจทั้งสองนาย เป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ว่าสาเหตุน่าจะมาจากตำรวจทั้ง 2 นายมีความใกล้ชิดกับนักการเมืองพรรคเพื่อไทย โดยเฉพาะ พล.ต.ต.พชรที่สนิทสนมกับนักการเมืองฝั่งพรรคเพื่อไทยมานานแล้ว ส่วนการสั่งย้าย พ.ต.อ.สมพงศ์ หลายคนยังงุนงงเพราะยังไม่มีความชัดเจนว่าสนิทกับนักการเมืองพรรคเพื่อไทย แต่อาจเป็นผลจากการนำทหารเข้าทลายบ่อนไก่ผู้มีอิทธิพลคนหนึ่ง หรือกรณีสั่งตำรวจปิดล้อมตรวจค้นอาวุธปืนในสำนักงาน อบจ.นครศรีธรรมราชก็เป็นได้
อสมทแต่งดำต้านรักษาการบอร์ด
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังการลาออกของบอร์ดอสมท ที่ได้รับการแต่งตั้งสมัยรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกฯ และมีการตั้งนางกมลาสิริ อิศรางกูร ณ อยุธยา ขึ้นมารักษาการกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บมจ.อสมท ล่าสุดพนักงาน อสมทจำนวนมากพร้อมใจกันใส่ชุดสีดำ เพื่อคัดค้านมติบอร์ดในการตั้งรักษาการ นอกจากนี้ ประชาคม mcot และสหภาพแรงงาน อสมท ได้พบและหารือกับพนักงาน ได้ข้อสรุปฉันทมติของพนักงาน คือจะทำหนังสือขอให้บอร์ดที่เหลือทยอยลาออกตามมารยาทเมื่อเปลี่ยนรัฐบาล พร้อมเสนอตัวเป็นองค์กรแรกให้ คสช.ตรวจสอบเรื่องทุจริต ตามนโยบาย คสช. สั่งหน่วยงานรัฐทำแผนป้องกันทุจริต โดยวันที่ 20 มิ.ย.จะไปยื่นหนังสือให้ พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง ผบ.ทอ.รองหัวหน้า คสช.ในฐานะกำกับดูแลรัฐวิสาหกิจ ที่ บก.ทบ.และเวลา 10.00 น. จะไปยื่นให้ ม.ล.ปนัดดา ดิศกุล รองปลัดกระทรวงมหาดไทย ปฏิบัติหน้าที่ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีต่อไป
โพลหนุนนายกฯมาจากเลือกตั้ง
วันเดียวกัน “นิด้าโพล” เปิดเผยผลสำรวจความคิดเห็นประชาชน เรื่อง “คสช.กับการปฏิรูปการเมือง” จากประชาชนทั่วประเทศ 1,253 ตัวอย่าง จากผลการสำรวจความคิดเห็นเกี่ยวกับการเร่งดำเนินการปฏิรูปการเมืองในด้านต่างๆ ของ คสช.พบว่าร้อยละ 23.43 ระบุว่า ควรปฏิรูประบบการป้องกันและปราบปรามการทุจริตคอร์รัปชันของนักการเมืองและข้าราชการ รองลงมาร้อยละ 20.24 ควรแก้ไขปัญหาพฤติกรรมนักการเมือง ร้อยละ 17.63 ควรแก้ไขปัญหาการซื้อสิทธิขายเสียง ร้อยละ 16.36 ควรปฏิรูประบบการเลือกตั้ง เมื่อถามถึงความคิดเห็นเกี่ยวกับคุณสมบัติและที่มาของนายกรัฐมนตรี พบว่า ส่วนใหญ่ร้อยละ 77.57 ระบุว่า นายกฯควรมาจากการเลือกตั้งโดยตรงจากประชาชน แต่ความเห็นเกินครึ่ง หรือร้อยละ 54.27 เห็นว่า ส.ส.ไม่จำเป็นต้องสังกัดพรรคการเมือง ขณะที่ ร้อยละ 40.86 ระบุว่า จำเป็นต้องสังกัดพรรคการเมือง
สั่งกลุ่มจังหวัดจัดทำแผนงบฯปี 58
ต่อมาเวลา 20.40 น. คสช.มีประกาศฉบับที่ 69/2557 เรื่องการยื่นคำของบประมาณจังหวัดและงบประมาณกลุ่มจังหวัด ประจำปีงบประมาณ 2558 โดยสั่งการให้แต่ละกลุ่มจังหวัดจัดทำแผนงบประมาณปี 2558 โดยให้สอดคล้องตามแผนพัฒนาจังหวัด จากนั้นให้เสนอสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ ส่งให้สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ร่วมพิจารณากลั่นกรองแผน และให้ดำเนินการส่งให้หัวหน้า คสช. พิจารณาให้ความเห็นชอบ เมื่อให้ความเห็นชอบแผนดังกล่าวแล้ว ให้ส่งแผนดังกล่าวต่อสำนักงบประมาณ เพื่อดำเนินการจัดสรรงบประมาณ ตามกฎหมายว่าด้วยวิธีการงบประมาณ

2014年6月11日 星期三

蕭若元細說《史記‧太史公自序》1 ─ 昔在顓頊...而司馬氏入少梁

泰國警方在世界杯時抓非法網上賭球 เจาะข่าวเด่น 'ชูวิทย์' แฉบ่อนออนไลน์รับบอลโลก





เจาะข่าวเด่นสรยุทธ-แฉ…บ่อนออนไลน์รับบอลโลก กับชูวิทย์

นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ หัวหน้าพรรครักประเทศไทย ระบุว่าปัญหาพนันไม่เคยลดลง แต่จัดการได้ไม่ยาก ถ้าทำจริงจัง พร้อมเผยข้อมูลว่าเว็บรับแทงพนันออนไลน์ ตำรวจปิดไม่ได้ เพราะอยู่ต่างประเทศ เมื่อมีคนสมัครผ่านหน้าเว็บ จะได้ลิงค์และเบอร์บัญชีในประเทศ สำหรับโอนเงิน โดยลิงค์รับเล่นพนันจะเปลี่ยนไปเรื่อยๆ ถ้าโดนปิดจะมีsmsแจ้งให้นักพนันทราบ
ตนเองมองว่าวิธีจับง่ายมาก คือ การไปล่อซื้อ สืบจากเบอร์มือถือ-เลขบัญชี ที่เจ้ามือระบุไว้ โดยการเล่นการพนันเดี๋ยวนี้ง่ายและเร็วมาก เพราะเล่นออนไลน์ได้ เด็กอายุน้อยก็เข้าถึงได้ ล่าสุดมีการตั้งศูนย์คอลเซ็นเตอร์บ่อนออนไลน์ อยู่แถบสระแก้ว อรัญประเทศ
สำหรับร้านเน็ตที่แฝงเล่นพนัน สังเกตง่ายๆ จะติดฟิล์มทึบไม่โปร่งใส ลักษณะนี้จะเป็นธุรกิจเฟรนไชน์ โดยร้านเน็ตที่แฝงการพนัน จะจ่ายเงินให้นักพนันทันทีถ้าเล่นได้ คล้ายแลกชิปในบ่อนพร้อมย้ำอีกว่าวิธีจัดการง่ายสุด คือ การตรวจสอบเลขบัญชี เชื่อว่าต้องได้กลุ่มใหญ่ ก่อนเสริมว่าซอยมหาดไทยมีโต๊ะสนุกเป็นสิบๆ
ส่วนบรรยากาศช่วงบอลโลกโต๊ะพนันคึกคักมาก มีการตั้งศูนย์คอลเซ็นเตอร์ที่ปราจีนบุรี มีเจ้าหน้าที่กว่า 80 คน พร้อมหยิบยกกฎหมายเกี่ยวกับการพนันมาเอ่ยถึง โดยมองว่าจะต้องมีการปรับปรุงให้ทันสมัย
ส่วนตัวไม่อยากตั้งความหวังว่าตำรวจจะกวาดล้างได้หมด เพราะตนเองอยู่อย่างช้ำใจ แต่ก็ยังพูดเรื่องนี้อยู่ ส่วนหวยใต้ดินงวดล่าสุด ปิดรับแทงก่อน 1 วัน จากเมื่อก่อนรับตลอด เพราะกลัว คสช. ก่อนจะย้ำทิ้งท้ายว่าต้องแก้กฎหมายให้ทันสมัย ให้เท่าทันการความเจริญของเทคโนโลยี
ข่าวบันเทิงบน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!

2014年6月9日 星期一

泰國一月十八日是泰國建軍節 สารคดีพิเศษ วันกองทัพไทย 18 มกราคม 2557 Thai Armed Forces Day 18 January...

泰國泰王與王室 "ในหลวง" ทรงบำเพ็ญพระราชกุศลถวาย "ร.8-พระบรมราชชนก-สมเด็จย่า-สมเด็จพระพี...



พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ทรงบำเพ็ญพระราชกุศลทรงพระราชอุทิศถวาย พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรมหาอานันทมหิดล สมเด็จพระมหิตลาธิเบศร อดุลยเดชวิกรม พระบรมราชชนก สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี และสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์
วันที่ 9 มิถุนายน 2553 เวลา 17.49 น.พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เสด็จออก ณ ห้องประชุม ชั้น 14 อาคารเฉลิมพระเกียรติ โรงพยาบาลศิริราช ทรงบำเพ็ญพระราชกุศลทรงพระราชอุทิศถวาย พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรมหาอานันทมหิดล พระอัฐมรามาธิบดินทร เนื่องในวันคล้ายวันสวรรคต, สมเด็จพระมหิตลาธิเบศร อดุลยเดชวิกรม พระบรมราชชนก, สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี และสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์

หลังจาก ทรงจุดธูปเทียนบูชาพระรัตนตรัย ทรงจุดธูปเทียนเครื่องทองน้อยถวายราชสักการะพระบรมฉายาลักษณ์ พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรมหาอานันทมหิดล พระอัฐมรามาธิบดินทร พระฉายาลักษณ์ สมเด็จพระมหิตลาธิเบศร อดุลยเดชวิกรม พระบรมราชชนก สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี และพระรูปสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ แทนพระบรมอัฐิและพระอัฐิแล้ว ทรงคม พระสงฆ์ 10 รูป สวดพระพุทธมนต์ จบแล้ว พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงจุดเทียนดูหนังสือเทศน์ พระราชทานให้เจ้าพนักงานพระราชพิธีเชิญไปตั้งที่ธรรมาสน์ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ทรงจุดธูปเทียนเครื่องทรงธรรม

พระธรรมรัตนดิลก ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดสุทัศนเทพวราราม ขึ้นนั่งยังธรรมาสน์ เสร็จแล้วพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงจุดธูปเทียนเครื่องทองน้อยพระราชทานให้เจ้าพนักงานเชิญไปถวายที่หน้าพระบรมฉายาลักษณ์และพระฉายาลักษณ์ แทนพระบรมอัฐิและพระอัฐิ แล้วทรงธรรม ทรงศีล พระธรรมรัตนดิลก ถวายศีลและถวายพระธรรมเทศนา

จบแล้ว พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถ ทรงหลั่งทักษิโณทก พระสงฆ์ถวายอนุโมทนา ถวายอดิเรก ถวายพระพรลา จากนั้นพระบาท สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมรา ชินีนาถ ทรงคมไปยังหน้าพระพุทธรูป และหน้าพระบรมฉายาลักษณ์ พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรมหาอานันทมหิดล พระอัฐมรามาธิบดินทร/ พระฉายาลักษณ์สมเด็จมหิตลาธิเบศร อดุลยเดชวิกรม พระบรมราชชนก /สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี และพระรูปสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ แล้วเสด็จขึ้น

พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรมหาอานันทมหิดล พระอัฐมรามาธิบดินทร เป็นพระราชโอรสในสมเด็จพระมหิตลาธิเบศร อดุลยเดชวิกรมพระบรมราชชนก และสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี เสด็จพระราชสมภพ เมื่อวันที่ 20 กันยายน พุทธศักราช 2468 ณ เมืองไฮเดลเบิร์ก ประเทศเยอรมนี เสด็จขึ้นครองราชย์เป็นพระมหากษัตริย์พระองค์ที่ 8 แห่งบรมราชจักรีวงศ์ เมื่อวันที่ 2 มีนาคม 2477 ขณะมีพระชนมายุ 8 พรรษา ระหว่างที่ยังทรงศึกษาต่อที่สวิตเซอร์แลนด์นั้น พระองค์ได้เสด็จนิวัติพระนคร เพื่อทรงประกอบพระราชกรณียกิจมากมาย เช่น การพระราชทานรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ทรงเปิดประชุมรัฐสภา ทรงเยี่ยมราษฎรในจังหวัดต่าง ๆ ทรงเยี่ยมชาวไทยเชื้อสายจีนเป็นครั้งแรกที่สำเพ็ง ทรงทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา และทรงส่งเสริมและพัฒนาการศึกษาของไทยให้เจริญก้าวหน้า โดยเฉพาะการผลิตบุคลากรทางการแพทย์ พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรมหาอานันทมหิดล พระอัฐมรามาธิบดินทร เสด็จสวรรคต เมื่อวันที่ 9 มิถุนายน พุทธศักราช 2489 ขณะพระชนมพรรษา 20 พรรษา รวมระยะเวลาที่ทรงครองสิริราชสมบัติ 12 ปี

2014年6月7日 星期六

泰國陸軍總司令巴育上將會見中方在泰代表 กลุ่มนักธุรกิจชาวจีน เข้าพบ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา หน.คสช.





วันนี้ (6 มิ.ย. 57) เวลา 13.40 น. ณ ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล พ.อ.วีรชน สุคนธปฏิภาค รองโฆษกกองทัพบก พ.อ.วินธัย สุวารี รองโฆษกกองทัพบก พร้อมด้วย ร.อ.นายแพทย์ยงยุทธ มัยลาภ นางสาวปัทมาภรณ์ รัตนดิลก ณ ภูเก็ต คณะโฆษกคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ฝ่ายพลเรือน ได้ร่วมกันแถลงข่าว สรุปสาระสำคัญ ดังนี้
นางสาวปัทมาภรณ์ รัตนดิลก ณ ภูเก็ต โฆษกคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ฝ่ายพลเรือน แถลงผลการหารือระหว่าง พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กับ สภาอุตสาหกรรม และนักธุรกิจรายใหญ่ของจีนประกอบด้วยนักธุรกิจภาคการเงิน การธนาคาร ธนาคาร ICBC ที่เป็นธนาคารใหญ่ที่สุดของประเทศจีน และภาคอุตสาหกรรม ภาค ICT ไฟฟ้า บริษัทผลิตรถยนต์ เกษตรกรรม โรงงานผลิตปุ๋ย และอุปกรณ์พื้นฐานในการเกษตร นอกจากนั้น มีผู้ประกอบการทำเหมืองแร่ นักลงทุนโครงการบริหารจัดการน้ำ
สำหรับการเข้าพบในครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อประสานความร่วมมือด้านการลงทุน สร้างความมั่นใจในการลงทุนระหว่างทั้งสองประเทศ ซึ่ง หัวหน้า คสช. ได้ อธิบายถึงเหตุผลและความจำเป็นในการใช้อำนาจบริหารประเทศเพื่อแก้ไขข้อจำกัดทั้งด้านข้อกฎหมายและกฎระเบียบต่าง ๆ ให้ระบบบริหารราชการแผ่นดินสามารถขับเคลื่อนต่อไปได้โดยไม่มีอุปสรรค รวมถึงนโยบายการค้าการลงทุนกับต่างประเทศ  โดยหัวหน้า คสช. ได้ให้ความมั่นใจว่า จากนี้ไป การค้า การลงทุน จะมีความโปร่งใส บริสุทธิ์ ยุติธรรม ตรวจสอบได้ ปราศจากการทุจริต คอร์รัปชั่น โดยมุ่งประโยชน์ของประชาชนเป็นหลัก สิ่งเหล่านี้จะเป็นต้นแบบในการสร้างความมั่นใจให้กับนักลงทุน ทั้งนี้ นักธุรกิจจีนที่ต้องการมาลงทุนในประเทศไทย ขอให้คำนึงถึงผลประโยชน์ สร้างความเข้มแข็งแก่แรงงานไทย โดยเฉพาะ การตั้งบริษัทลูกที่บริหารโดยคนไทย จะเป็นการสนับสนุนบริษัทแม่ของจีน และสามารถเพิ่มมูลค่าวัตถุดิบในประเทศโดยเฉพาะด้านการเกษตรที่มีราคาตกต่ำ  นอกจากนี้ ให้นักธุรกิจจีนที่ต้องการจัดตั้งโรงงานขึ้นใหม่ในไทยนั้น คำนึงถึงการใช้พลังงานทดแทน รักษาสิ่งแวดล้อม เพิ่มศักยภาพและพัฒนาบุคลากร ขอความร่วมมือกับนักธุรกิจชาวจีนในการให้ข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับสถานการณ์การเมืองที่ถูกต้องแก่นักธุรกิจและนักท่องเที่ยวชาวจีน เพื่อให้มีความมั่นใจต่อการลงทุนและท่องเที่ยวในประเทศไทย  
中文來自“泰國世界日報'
國家維持穩定委員會主席巴育上將昨天(6日)在陸軍總司令部會晤中資企業代表,並表示決保持與中國戰略夥伴關係,並可望在2-3個月內組建臨時政府和新內閣,也會考慮盡早解除其他地方的宵禁措施。
身兼陸軍總司令的巴育上將昨天會晤來訪的中資企業代表。他表示,希望中國商業界人士能向中國國民傳遞說明泰國目前的真實狀況,而目前的政治局勢也不會影響到來泰遊客的正常旅行,也不影響國外投資者的正常投資,但部分投資還需要等泰國方面明確2015年度財政預算細節之後。
參與會見的中資企業代表包括中國工商銀行(泰國)有限公司董事長胡曄博士、泰國總商會副主席威猜、著名華裔企業家邱威功等等。
巴育上將還在會見中承諾,維穩委員會將認真打擊貪污舞弊和利益重疊行為,將分輕重緩急分別處理面臨的各種問題。預計在3個月內將能組建臨時政府,並確保臨時政府恪守清廉與公正原則。維穩委員會也會根據事態發展,盡早結束仍在部分地區實施的宵禁法。
巴育上將強調,泰中兩國的投資與商貿往來應該側重互利原則,而泰國方面希望加強在工業與科技方面的競爭力。
陸軍總司令部副發言人雲泰上校說,針對有人準備在本月8日舉行抗議維穩委員會的集會,維穩委員會已確定兩項應對措施,包括切斷現場抗議者的通訊,若有違法行為將交由在現場維護秩序的警方依法處置。
此外,國防部副秘書長納帕少將昨天表示,本月11-13日國防部副次長素拉薩上將率領包括各軍隊長官出席在北京舉行的第10屆泰中國防合作聯合會議,中國人民解放軍副總參謀長王冠中中將將主持此次聯合會議。