อังกฤษ-ฝรั่งเศส สหรัฐ-เยอรมันฯ มั่นใจการลงทุน!
“บิ๊กตู่” สั่งเร่งเครื่องคืนความสุขคนไทย ไล่บี้ให้ถึงต้นตอแก๊งโก่งราคาหวยรัฐ ต้อนรับกลุ่มนักลงทุน 7 ชาติยักษ์ใหญ่กลุ่มอเมริกา-อียู งัดสารพัดมาตรการส่งเสริมการลงทุนหวังคู่ค้าขยายการลงทุน ธปท.รับเปลี่ยนรูปแบบธนบัตรยาก “ปนัดดา” วาง 3 แนวทางปฏิรูปราชการ ซัดประชานิยมทำคนไทยเป็นซอมบี้ “สีหศักดิ์” แจงทูตญี่ปุ่นพัฒนาการไทยตามแนวโรดแม็ป ก.พลังงาน-ปตท.ประสานเสียงโต้ข้อครหาซูเอี๋ย บริษัทข้ามชาติลักลอบขุดน้ำมันดิบเมืองมะขาม ยันได้สัมปทานตามกฎหมาย จวกพวกปั่นกระแสไทยรวยน้ำมัน ป.ป.ช.รำดาบสอบคดี “ปู” ซุกนาฬิกาหรู “จเร” สั่งเด้ง ขรก. สาย “สุวิจักขณ์” ผบช.ภ.8 เซ็นย้ายด่วน ผบก.ภ. จ.นครศรี-ผกก.เมือง
ภารกิจเดินหน้าสู่เป้าหมายการคืนความสุขให้คนไทยของ คสช.ยังดำเนินต่อไปครอบคลุมเกือบทุกด้าน ขณะที่ยุทธศาสตร์สร้างความเชื่อมั่นให้นักลงทุนต่างชาติก็ทำควบคู่ไปด้วย ล่าสุด พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้า คสช. เชิญผู้แทนหอการค้า 7 ชาติยักษ์ใหญ่ เข้าหารือแผนการลงทุนในประเทศไทย
คสช.ไล่ถึงต้นตอโก่งราคาหวยรัฐ
เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 19 มิ.ย. ที่กองบัญชาการกองทัพบก (บก.ทบ.) ถนนราชดำเนิน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ. หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) มอบหมายให้ พล.อ.วิชิต ศรีประเสริฐ หัวหน้าคณะฝ่ายเสนาธิการประจำผู้บังคับบัญชา เป็นประธานการประชุมเพื่อติดตามการทำงานของฝ่ายต่างๆของ คสช. ทั้งฝ่ายความมั่นคง ฝ่ายเศรษฐกิจ ฝ่ายกฎหมาย และกระบวนการยุติธรรม รวมทั้งส่วนงานขึ้นตรงกับหัวหน้า คสช. โดยที่ประชุมพูดคุยถึงปัญหาการค้าประเวณี รวมถึงปัญหาอาวุธสงครามที่กองกำลังรักษาความสงบ (กกล.รส.) แต่ละพื้นที่ติดตามตรวจยึดได้ต่อเนื่องด้วย โดย พล.อ.วิชิตกล่าวว่า ปัญหาอาวุธสงครามมีความเชื่อมโยงทั้งเรื่องปัญหาแรงงาน ปัญหายาเสพติด ปัญหาการลักลอบตัดไม้ทำลายป่า ทุกส่วนที่เกี่ยวข้องต้องร่วมกันหามาตรการที่เข้มงวดต่อเนื่อง จัดการกับขบวนการผิดกฎหมายเหล่านี้ เพื่อสร้างภูมิคุ้มกันถาวรให้กับเยาวชนรุ่นหลัง ส่วนการแก้ปัญหาสลากกินแบ่งรัฐบาลที่ขายเกินราคา ต้องให้ทุกส่วนงานช่วยกันคิดเพื่อไม่ให้ส่งผลกระทบกับคนระดับรากหญ้า ปัญหานี้ต้องแก้ที่ต้นเหตุจะทำอย่างไรกับผู้ที่เข้ามาแสวงหาผลประโยชน์ จะยังไม่ดูที่การขายลอตเตอรี่เกินราคาในขณะนี้เพราะถือว่าเป็นปัญหาปลายเหตุ
ย้ำนักลงทุนเข้ามาช่วยพยุงชาติ
ต่อมาเวลา 14.00 น. ที่ บก.ทบ. พล.อ.ประยุทธ์ ได้เชิญผู้แทนหอการค้าต่างประเทศ 7 ประเทศที่อยู่ในกลุ่มอเมริกาและสหภาพยุโรป ประกอบด้วย สหรัฐอเมริกา อังกฤษ ฝรั่งเศส เยอรมนี ออสเตรเลีย แคนาดา และแอฟริกาใต้ เข้าหารือเรื่องการค้าการลงทุน หลังจากที่ประชุมคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) อนุมัติแผนส่งเสริมการลงทุน 18 โครงการ มูลค่ากว่า 1.2 แสนล้านบาท โดย พล.อ.ประยุทธ์กล่าวขอบคุณผู้ที่มาร่วมหารือ พร้อมกับชี้แจงการเข้ามาควบคุมสถานการณ์และบริหารประเทศว่า มาจากเหตุผลหลายประการ เช่น ฝ่ายนิติบัญญัติ ฝ่ายบริหาร และฝ่ายตุลาการ มีปัญหาจนไม่สามารถทำหน้าที่ได้อย่างเต็มที่ และจะทำอย่างไรให้ประชาธิปไตยของไทยยั่งยืนสมบูรณ์เหมือนกับประเทศอื่น คสช.จึงต้องเข้ามาพยุงประชาธิปไตยให้มั่นคงต่อไป
เร่งขยายร่วมมือการค้ากลุ่มอียู
พล.อ.ประยุทธ์ยังกล่าวให้ความมั่นใจต่อผู้แทนหอการค้า 7 ประเทศ พร้อมอธิบายถึงแผนโรดแม็ป 3 ขั้นตอน โดยจะมีการแก้ไขกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการค้าระหว่างประเทศ และเตรียมเจรจาด้านการค้าการลงทุนกับกลุ่มประเทศต่างๆอย่างเร่งด่วน พร้อมเร่งขยายความร่วมมือการค้าการลงทุน โดยเฉพาะในกลุ่มสหภาพยุโรปให้มากขึ้น สิ่งที่กำลังดำเนินการในขณะนี้ ขอให้นักลงทุนต่างประเทศมั่นใจการทำงานภายใต้การดูแลของ คสช. อาทิ การจัดทำระบบจดทะเบียนนิติบุคคลอิเล็กทรอนิกส์ และระบบให้บริการงบการเงินผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ เป็นต้น รวมทั้งผลักดันกฎหมายการค้าและการพาณิชย์ที่ยังค้างอยู่ให้เรียบร้อย
ถกสภา กห.นัดแรกหลังยึดอำนาจ
ช่วงเช้าวันเดียวกัน ที่กระทรวงกลาโหม พล.อ.สุรศักดิ์ กาญจนรัตน์ รองปลัดกระทรวงกลาโหม รักษาราชการแทนปลัดกระทรวงกลาโหม ทำหน้าที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมเป็นประธานการประชุมสภากลาโหม โดยมี พล.อ.ธนะศักดิ์ ปฏิมาประกร ผบ.ทหารสูงสุด พล.ร.อ.ณรงค์ พิพัฒนาศัย ผบ.ทร. พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง ผบ.ทอ. และผู้บังคับหน่วยขึ้นตรงกระทรวงกลาโหมเข้าร่วมประชุมอย่างพร้อมเพรียง ขณะที่ พล.อ.ประยุทธ์ติดภารกิจที่ บก.ทบ. จึงไม่ได้เข้าร่วมประชุม ซึ่งที่ประชุมรับฟังรายงานสถานการณ์ต่างๆ และความคืบหน้าการ ดำเนินงานของกระทรวงกลาโหมในช่วงที่ผ่านมา รวมถึงการพิจารณาแต่งตั้งทดแทนสมาชิกสภากลาโหมที่จะหมดวาระลงในปีนี้ และการเตรียมความพร้อมในการรับมือภัยพิบัติที่จะเกิดขึ้นในอนาคต ถือเป็นการประชุมสภากลาโหมครั้งแรกหลังการยึดอำนาจของ คสช.
ธปท.รับเปลี่ยนแบบธนบัตรยาก
นางรุ่ง มัลลิกะมาส โฆษกธนาคารแห่งประ-เทศไทย (ธปท.) กล่าวถึงแนวคิดของ คสช. ที่จะให้ยกเลิกธนบัตรแบบเก่า ที่ ธปท.ไม่ได้จัดพิมพ์อยู่ในปัจจุบัน เพื่อดึงเงินใต้ดินและเงินผิดกฎหมายที่เก็บซ่อนไว้ขึ้นมาอยู่ในระบบว่า ธปท.ยังไม่ได้รับการติดต่ออย่างเป็นทางการ จึงยังไม่สามารถให้คำตอบที่ชัดเจนถึงความเป็นไปได้หรือเป็นไปไม่ได้ แต่หากพิจารณาจากประสบการณ์ในต่างประเทศ การจะยกเลิกธนบัตรรุ่นใดรุ่นหนึ่งต้องเป็นเพราะตัวธนบัตรมีปัญหา เช่น เป็นรุ่นที่มีการปลอมแปลงสูง หรือในช่วงนั้นประเทศนั้นมีปัญหาอัตราเงินเฟ้อสูง ทำให้ธนบัตรเสื่อมค่าลงอย่างรวดเร็ว จึงมีการยกเลิกธนบัตรบางรุ่นไป หากจะให้ยกเลิกธนบัตรบางรุ่นไป และให้พิมพ์ธนบัตรใหม่ขึ้นมาทดแทน มีทั้งข้อดีและข้อเสีย โดยข้อเสีย อาจทำให้มีต้นทุนการพิมพ์ธนบัตรเพิ่มขึ้น และมีปัญหาการปรับตัวของประชาชนในการแลกคืนธนบัตรบ้าง อย่างไรก็ตาม ธปท.ได้เปลี่ยนแบบธนบัตรใหม่ในทุกช่วงเวลาหนึ่งเป็นประจำอยู่แล้ว ขณะนี้อยู่ระหว่างการเปลี่ยนธนบัตรจากแบบ 15 เป็นแบบ 16 โดยมีการเปลี่ยนมาแล้ว 3 รุ่น คือ รุ่นชนิดราคา 20 บาท รุ่นชนิดราคา 50 บาท และรุ่นชนิดราคา 500 บาท แต่ธนบัตรในแบบ 1-15 ก็ยังใช้ชำระหนี้ตามกฎหมายได้อยู่ ยังไม่มีการยกเลิกธนบัตรแบบใดในขณะนี้
“ปนัดดา” วางแนวปฏิรูปราชการ
เมื่อเวลา 11.00 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล ม.ล.ปนัดดา ดิศกุล รองปลัดกระทรวงมหาดไทย ปฏิบัติหน้าที่ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมปฏิรูประบบราชการ ร่วมกับตัวแทนสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ (ก.พ.ร.) และสำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน (ก.พ.) เพื่อรับฟังแนวทาง โดย ม.ล.ปนัดดากล่าวต่อที่ประชุมว่า หลักการปฏิรูประบบราชการมี 3 แนวทาง คือ 1.สำนักงาน ก.พ.ร. สำนักงาน ก.พ. ต้องเป็นแบบอย่างการปฏิบัติงาน 2.ความหมายของการปฏิบัติตนในฐานะข้าราชการของแผ่นดิน ข้าราชการของพระบาท สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว อยากให้เกิดความชัดเจนไม่ใช่พูดกันอย่างเดียว ที่พอถึงวันก็ไปถวายสัตย์ปฏิญาณตามพิธีการ แต่เมื่อนำไปปฏิบัติกลายเป็นความบกพร่อง ฉะนั้น เมื่อถวายสัตย์ต้องปฏิบัติให้ได้ตามนั้น และ 3.การปฏิบัติต่อผู้บังคับบัญชา ผู้ร่วมงาน ผู้ใต้บังคับบัญชา และประชาชน จะทำอย่างไรให้ดูพอดี พองาม ไม่ใช่ประจบประแจง
ซัดประชานิยมทำคนไทยซอมบี้
วันเดียวกัน ม.ล.ปนัดดา ดิศกุล โพสต์ลงเฟซบุ๊กส่วนตัวว่า ปัญหาชาติที่เกิดขึ้นหลายปีที่ผ่านมา มองให้ลึกลงไปหลักคิดประชานิยม ไม่ว่าจะในเรื่องใดเป็นเรื่องที่น่ารังเกียจ อย่างปัญหาการทุจริตข้าวเกิดจากความไม่มีน้ำใจต่อพี่น้องเกษตรกรและลูกหลาน ไปคิดทำเป็นเกมสนุกสนานจนเป็นหนี้เป็นสินกันทั่วบ้านทั่วเมือง การคืนภาษีรถยนต์คันแรก โครงการบริหารจัดการน้ำ รถไฟความเร็วสูง การไม่ให้ผู้คนเรียนรู้วัฒนธรรมประเพณีของชาติ ไม่เคารพจารีตประเพณีอันศักดิ์สิทธิ์ของแผ่นดิน ยุยงให้ประชาชนในชาติเกิดความแตกแยกเป็นจังหวัด เป็นภาค เพราะการเมืองที่ปราศจากจรรยาบรรณ แทนที่จะพูดว่าจังหวัดทั้งหลายคือความเป็นประเทศไทยเดียวกัน ใต้ร่มพระบารมีเดียวกัน เราต่างพึ่งพาอาศัยกัน คนเพียงส่วนน้อยนิดเท่านั้นที่อาจหลงทางเดิน หลงคารม หลงความร่ำรวย ข้าราชการ คนไทยต้องช่วยกันปรับปรุงตัวปรับเปลี่ยนแนวคิด เลิกถือเนื้อถือตัวหรือแบ่งชนชั้นวรรณะ เลิกเอารัดเอาเปรียบ เลิกทุจริตคดโกงอย่างเด็ดขาด ซื่อสัตย์สุจริต ยึดหลักธรรมาภิบาลในการครองตน มิเช่นนั้นมีหวังได้เห็นซอมบี้เดินกันเต็มเมือง เดี๋ยวจะหาว่าไม่เตือน
มท.คุมเข้มสถานบันเทิงแหล่งยา
ที่กระทรวงมหาดไทย นายวิบูลย์ สงวนพงศ์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวถึงภารกิจเร่งด่วนของกระทวงมหาดไทยที่ต้องขับเคลื่อนเพิ่มเติมว่า มีการประชุมกำหนดมาตรการป้องกันการทุจริตในวงราชการเพิ่มเติม เป็นการเพิ่มเติมมาตรการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด และการทบทวนขั้นตอนของกระทรวงมหาดไทยเพื่อรองรับมาตรการของ คสช. ที่อาจมีมาตรการเพิ่มเติมสำหรับแรงงานต่างด้าว สำหรับเรื่องยาเสพติด ในระยะ 2-3 เดือนต่อจากนี้ จะกวดขันสถานบริการซึ่งเป็นจุดแพร่กระจายยาเสพติดไม่ให้กระทำความผิด รวมถึงพยายามลดความรุนแรงของการแพร่ระบาดในพื้นที่สีแดง 3,250 หมู่บ้าน โดยใช้กลไกนายอำเภอ กำนัน ผู้ใหญ่บ้านช่วยกันขับเคลื่อน
ขรก.เฮจ่อขยายอัตรา นอภ.9
นายวิบูลย์กล่าวว่า นอกจากนี้ได้มอบหมายให้นายศิริพงษ์ ห่านตระกูล อธิบดีกรมการปกครอง เป็นประธานในการประชุมกำหนดแนวทางการปรับตำแหน่งอำนวยการระดับสูง (นายอำเภอ) จำนวน 340 ตำแหน่ง โดยตำแหน่งนายอำเภออำนวยการสูงมีอยู่ 411 ตำแหน่ง หากพิจารณาจากจำนวนอำเภอทั้งหมด 878 อำเภอ ยังมีโอกาสที่จะปรับตำแหน่งนายอำเภอที่ยังไม่ได้ตำแหน่งอำนวยการสูงได้อีก ซึ่งไม่ได้ปรับมานานพอสมควร การปรับตำแหน่งครั้งนี้จึงเป็นผลดีต่อการสร้างขวัญและกำลังใจให้กับนายอำเภอ
ด้านนายศิริพงษ์กล่าวว่า สำหรับเกณฑ์ในการพิจารณา จะวัดตามหลักเกณฑ์ที่กรมการปกครองกำหนดไว้ โดยพิจารณาจากอำเภอที่มีผลงานมาเป็นเกณฑ์หลัก ให้ความสำคัญกับปริมาณงานและคุณภาพงาน มากกว่าการพิจารณาโดยยึดตามตัวบุคคล
พร้อมจัดประชุมรับมือภัยพิบัติ
จากนั้นเวลา 15.00 น. ที่กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ม.ล.ปนัดดา ดิศกุล ปฏิบัติหน้าที่ปลัดสำนักนายกฯ เป็นประธานแถลงความพร้อมการเป็นเจ้าภาพการจัดประชุมระดับรัฐมนตรีแห่งเอเชียว่าด้วยการลดความเสี่ยงจากภัยพิบัติ ครั้งที่ 6 พ.ศ.2557 (The 6th Asian Ministerial Conference on Disaster Risk Reduction 2014-AMCDRR) ในวันที่ 22-26 มิ.ย. ที่ศูนย์ประชุมบางกอกคอนเวนชั่นเซ็นเตอร์ แอท เซ็นทรัลเวิลด์ กรุงเทพฯ โดย ม.ล.ปนัดดากล่าวว่า จะมีผู้แทนรัฐบาลระดับรัฐมนตรี หัวหน้าหน่วยงานด้านการจัดการภัยพิบัติทั้งในและต่างประเทศกว่า 2,500 คน เข้าร่วมประชุม เพื่อร่วมกันผลักดันกลไกเชิงนโยบายในการจัดการภัยพิบัติของภูมิภาคเอเชียและระดับโลกให้เป็นรูปธรรม ประเด็นสำคัญที่จะหารือได้แก่ การส่งเสริมการลงทุนเพื่อทำให้ประเทศและชุมชนพร้อมรับและฟื้นกลับเร็วจากภัยพิบัติ ซึ่งประเทศไทยได้ผลักดันให้ประเด็นดังกล่าวเป็นแนวทางสำคัญที่บรรจุอยู่ในแผนการดำเนินงานลดความเสี่ยงจากภัยพิบัติของแต่ละประเทศ
ชูโครงการพระราชดำริจัดการน้ำ
นายฉัตรชัย พรหมเลิศ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) กล่าวว่า ในฐานะหน่วยงานเจ้าภาพหลักจัดการประชุม ให้ความสำคัญกับการสร้างการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วน จึงกำหนดรูปแบบการจัดกิจกรรมที่หลากหลาย ทั้งการประชุมเชิงวิชาการในระดับรัฐมนตรี ผู้เชี่ยวชาญ การประชุมคู่ขนานของกลุ่มผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย การจัดตลาดนัดวิชาการ การนำเสนอวีดิโอคลิป การศึกษาดูงานโครงการพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวด้านการบริหารจัดการน้ำ
พล.ต.ต.วรัตม์ชัย ศรีรัตนวุฑฒิ ผู้บังคับการกองแผนงานกิจการพิเศษ สำนักงานยุทธศาสตร์ตำรวจ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า ได้วางมาตรการรักษาความปลอดภัยในระดับสูงสุด ทั้งบุคคลและภาพรวมของการประชุม โดยสนธิกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ ดูแลความปลอดภัยของครอบคลุมทุกพื้นที่
แจงทูตญี่ปุ่นพัฒนาการไทย
วันเดียวกันเวลา 11.00 น. ที่กระทรวงการต่างประเทศ นายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว ปลัดกระทรวงการต่างประเทศ เชิญนายชิเกะคะสุ ซะโต เอกอัครราชทูตญี่ปุ่นประจำประเทศไทย เข้าพบเพื่อชี้แจงสถานการณ์ล่าสุดของไทย และประเด็นที่เกี่ยวข้องความสัมพันธ์โดยรวมระหว่างไทยและญี่ปุ่น จากนั้นนายเสข วรรณเมธี อธิบดีกรมสารนิเทศ และโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ แถลงว่า นายสีหศักดิ์ใช้โอกาสนี้เล่าถึงพัฒนาการทางการเมืองไทย โดยเฉพาะโรดแม็ปส่งเสริมความปรองดอง ก่อนนำไปสู่การเลือกตั้ง ซึ่งเป็นพื้นฐานสำคัญที่สร้างความเข้มแข็งให้กับไทย และขณะนี้ได้ผ่อนคลายมาตรการต่างๆ อาทิ การยกเลิกเคอร์ฟิว และสนับสนุนสิทธิมนุษยชน
ความร่วมมือเดินหน้าต่อ
นายเสขกล่าวว่า นายสีหศักดิ์ยังชี้แจงแผนงานด้านเศรษฐกิจว่า คณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) ได้พิจารณาการเบิกจ่ายงบประมาณปี 2557 ที่ยังคงเหลือยู่ และกำลังเตรียมพิจารณางบประมาณปี 2558 เพื่อใช้ในการลงทุนให้ทันเวลา พร้อมกับยืนยันว่าไทยจะให้ความปลอดภัยแก่นักลงทุนและนักท่องเที่ยวชาวญี่ปุ่น ซึ่งเอกอัครราชทูตญี่ปุ่นกล่าวขอบคุณไทยที่ให้ความร่วมมือมาอย่างยาวนาน และให้ข้อมูลคืบหน้าพัฒนาการทางการเมือง และนโยบายด้านเศรษฐกิจที่ชัดเจน โดยญี่ปุ่นเห็นว่าความร่วมมือระหว่างไทย-ญี่ปุ่น ต้องเดินหน้าต่อไป พร้อมกับยินดีที่นายสีหศักดิ์จะปฏิบัติหน้าที่ รมว.ต่างประเทศ เพื่อเดินทางเยือนประเทศญี่ปุ่น คาดว่าในเดือน ก.ค.นี้ โดยขณะนี้ยังอยู่ในช่วงนัดหมายของทั้งสองฝ่าย
โต้ซูเอี๋ยลักขุดน้ำมันเมืองมะขาม
ที่ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล นายทรงภพ พลจันทร์ อธิบดีกรมเชื้อเพลิงธรรมชาติ กล่าวถึงกระแสข่าวมีเจ้าหน้าที่ทหารกองบัญชาการกองทัพไทย และตำรวจกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
(บก.ปทส.) เข้าตรวจสอบการลักลอบขุดเจาะน้ำมันดิบของบริษัทเอกชนที่ ต.บ่อรัง อ.วิเชียรบุรี จ.เพชรบูรณ์ว่า กรณีดังกล่าว พ.ท.รัฐเขต แจ้งจำรัส อดีตกรรมาธิการการพลังงาน วุฒิสภา ร้องทุกข์กล่าวโทษบริษัท อีโค่ โอเรียนท์ รีซอสเซส (ประเทศไทย) จำกัด มีสัญชาติฮ่องกง ว่าลักลอบขุดเจาะน้ำมันดิบในพื้นที่ปฏิรูปที่ดินเพื่อการเกษตร โดยไม่เสียค่าภาคหลวง แต่จากการลงพื้นที่ของเจ้าหน้าที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง พบว่าเมื่อวันที่ 16 ธ.ค.2552 บริษัทอีโค่ฯได้รับอนุมัติผลิตบ่อรังเหนือ 39.39 ตารางกิโลเมตร มีเนื้อที่บางส่วนประมาณ 43 ไร่ 3 งาน 35 ตารางวา อยู่ในเขตที่ดิน สปก.ท้องที่ จ.เพชรบูรณ์ โดยมีฐานผลิตจำนวน 6 ฐาน
ยันให้สัมปทานถูกกฎหมาย
นายทรงภพกล่าวว่า แต่วันที่ 2 พ.ค.2555 บริษัทได้รับหนังสือแจ้งจาก สปก.ว่าพื้นที่ผลิตทั้ง 6 ฐาน อยู่ในพื้นที่ของ สปก.จึงได้หยุดทำการผลิตโดยทันที แต่ภายหลังมีการตรวจสอบจาก สปก. และมีหนังสือลงวันที่ 25 ธ.ค.2555 แจ้งไปยังบริษัทว่า พื้นที่ L44-v ซึ่งเป็น 1 ใน 6 ฐานผลิต ไม่อยู่ในเขตปฏิรูปที่ดิน บริษัทจึงเริ่มทำการผลิตปิโตรเลียมในพื้นที่ดังกล่าวเพียงแหล่งเดียวอีกครั้ง ในวันที่ 26 ธ.ค.2555 ปัจจุบันมีอัตราการผลิตน้ำมันดิบเฉลี่ย 142 บาร์เรลต่อวัน ดังนั้นกรมเชื้อเพลิงธรรมชาติขอยืนยันว่าประเด็นลักลอบผลิต และเรื่องไม่เสียค่า ภาคหลวงปิโตรเลียม ไม่เป็นความจริงแต่อย่างใด ภาพรวมปัจจุบันประเทศไทยมีทรัพยากรปิโตรเลียมที่ขุดได้จากแปลงสัมปทานภายในประเทศไม่ถึงร้อยละ 1 ของโลก และมีไม่เพียงพอต่อความต้องการใช้ภายในประเทศ จัดอยู่ในประเทศที่ต้องนำเข้าทั้งน้ำมันดิบและก๊าซธรรมชาติ
จวกพวกปั่นกระแสไทยรวยน้ำมัน
นายทรงภพกล่าวต่อว่า ฉะนั้นอย่าไปเชื่อว่าประเทศไทยเหมือนซาอุดีอาระเบีย ไทยไม่ได้มีน้ำมันมากขนาดนั้น วันนี้ก๊าซธรรมชาติผลิตได้ 3,600 ล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวัน ซึ่งไม่เพียงพอ ต้องนำเข้าจากพม่าประมาณ 1,000 ล้านลูกบาศก์ฟุต และต้องเสริมด้วยแอลพีจี ซึ่งมีราคาสูงอีกประมาณ 200 ล้านบาร์เรลต่อวัน หากก๊าซธรรมชาติในอ่าวไทยวันนี้สามารถผลิตเท่าที่สำรวจได้ จะไปได้อีก 7 ปี ฉะนั้นในอนาคตถ้าก๊าซธรรมชาติลดลง เราต้องมาเสริมด้วยแอลพีจี เชื่อว่าภายใน 10 ปี ค่าไฟจะเพิ่มขึ้น 50 เปอร์เซ็นต์ เพราะ 70 เปอร์เซ็นต์ของก๊าซธรรมชาตินำมาผลิตไฟฟ้า
ปตท.ปัดไม่รู้เห็นแค่เป็นผู้รับซื้อ
นายสรากร กุลธรรม รองกรรมการผู้จัดการใหญ่หน่วยธุรกิจการค้าระหว่างประเทศ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า บริษัท อีโค่ฯ เป็นผู้รับสัมปทานปิโตรเลียมตาม พ.ร.บ.ปิโตรเลียม 2514 มีสิทธิดำเนินงานประกอบกิจการด้านปิโตรเลียมในพื้นที่ผลิตสัมปทานปิโตรเลียม เลขที่ 3/2546/60 แปลงสำรวจบนบกหมายเลข L44/43 และสัมปทานเลขที่ 5/2546/62 แปลงสำรวจบนบกหมายเลข L33/43 โดยปัจจุบันมีอัตราการผลิตน้ำมันดิบทั้งหมดเพียง 4,790 บาร์เรลต่อวัน ปตท.และบริษัทในกลุ่ม ปตท. ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ในการประกอบกิจการผลิตปิโตรเลียมใน จ.เพชรบูรณ์ ตามที่เป็นข่าว นอกจากการรับซื้อน้ำมันดิบทั้งหมดเพื่อใช้ภายในประเทศ ที่มีการทำสัญญาซื้อขายถูกต้องตามกฎหมายมาตั้งแต่ปี 2551 จนถึงปี 2561 โดยส่งต่อให้โรงกลั่นในประเทศ ซึ่งปริมาณดังกล่าวคิดเป็นเพียง 2 เปอร์เซ็นต์ ของการผลิตน้ำมันดิบในประเทศ ขณะที่ไทยต้องนำเข้าน้ำมันดิบถึง 80 เปอร์เซ็นต์
กกต.โชว์เครื่องลงคะแนนสุดเจ๋ง
นายศุภชัย สมเจริญ ประธานกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) กล่าวภายหลังตรวจดูความคืบหน้าพัฒนาการเครื่องลงคะแนนเลือกตั้งแบบอิเล็กทรอนิกส์ รุ่นที่ 4 ที่มีการพัฒนามาตั้งปี 2546 ว่า หากสามารถนำเครื่องดังกล่าวมาใช้ในการเลือกตั้งได้ จะช่วยประหยัดงบประมาณที่ไม่ต้องจัดพิมพ์บัตรเลือกตั้ง และยังป้องกันการปิดล้อมการพิมพ์และการจัดส่งบัตรเลือกตั้งได้ ส่วนการป้องกันการทุจริตนั้นเครื่องดังกล่าวเป็นระบบปิด ไม่ได้เชื่อมโยงกับคอมพิวเตอร์ที่จะออนไลน์เข้ามาเปลี่ยนแปลงข้อมูลได้ แต่ต้องประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนเกิดการยอมรับ และอาจต้องแก้ไขกฎหมายที่เกี่ยวข้องต่อไป
ป.ป.ช.รำดาบสอบ “ปู” ซุกนาฬิกาหรู
อีกเรื่อง นายวรวิทย์ สุขบุญ รองเลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) กล่าวถึงการพิจารณาไต่สวน น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ปกปิดบัญชีทรัพย์สินและหนี้สิน กรณีไม่แจ้งบัญชีทรัพย์สินในส่วนของนาฬิกาหรูมูลค่า 2.5 ล้านบาทว่า ที่ประชุม ป.ป.ช.ได้พิจารณาสำนวนการไต่สวนที่คณะอนุกรรมการ ป.ป.ช.ส่งเรื่องมาให้ โดยเห็นว่า พยานหลักฐานที่คณะอนุกรรมการฯรวบรวมมายังมีข้อมูลไม่เพียงพอที่จะวินิจฉัยได้ จึงส่งประเด็นดังกล่าวให้คณะอนุกรรมการตรวจสอบบัญชีทรัพย์สินอดีตรัฐมนตรีในรัฐบาลยิ่งลักษณ์ จำนวน 5 คน ที่มีนายณรงค์ รัฐอมฤต กรรมการ ป.ป.ช.เป็นประธานคณะอนุกรรมการ ดำเนินการตรวจสอบข้อมูลต่อไป เนื่องจากคณะอนุกรรมการชุดนี้มีหน้าที่ตรวจสอบบัญชีทรัพย์สินอยู่แล้ว ให้เป็นผู้พิจารณาว่าต้องตรวจสอบข้อมูลหลักฐานในประเด็นใดเพิ่มเติมบ้าง แต่ยังไม่สามารถระบุได้ว่าจะใช้เวลาตรวจสอบเพียงใด
“เรืองไกร” ทวงสอบบัญชี “เทือก”
ด้านนายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ คณะทำงานฝ่ายกฎหมายพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า วันที่ 20 มิ.ย. จะยื่นเรื่องต่อประธาน ป.ป.ช.ให้ตรวจสอบมาตรฐานการทำงานของ ป.ป.ช.โดยมีสาระสำคัญ ดังนี้ ขอทราบความคืบหน้าผลตรวจสอบการแสดงบัญชีทรัพย์สินของนายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการ กปปส. กรณีที่แสดงหนี้สินการกู้เงินจากธนาคารอิสลาม และกู้เงินจากบริษัทศรีสุบรรณฟาร์มไว้ทางด้านเครดิต มูลค่ารวมกว่า 300 ล้านบาท โดยไม่ปรากฏคู่บัญชีของการกู้เงินที่ควรมีทางด้านเดบิทในประเภทบัญชีทรัพย์สิน ทราบว่ามีการสอบถามไปยังธนาคารอิสลามมาเป็นเวลาเกือบปีแล้ว แต่เรื่องยังค้างอยู่ในขั้นตอนตรวจสอบของ ป.ป.ช.และขอให้ตรวจสอบกรณีนายวิชา มหาคุณ กรรมการ ป.ป.ช.แต่งหนังสือออกจำหน่าย อาทิ กฎหมายกับความรัก การป้องกันและการแก้ปัญหายาเสพติด คำอธิบายกฎหมายล้มละลายและการฟื้นฟูกิจการของลูกหนี้ ถือว่าเข้าลักษณะอันต้องห้ามของกรรมการ ป.ป.ช. ตามความใน พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 มาตรา 11 หรือไม่ เพื่อให้เกิดความโปร่งใสและเป็นธรรมกับทุกฝ่าย เพื่อสนองตอบต่อประกาศ คสช. ฉบับที่ 63/2557
“วัชระ” ร้อง คสช.รื้อคดี “เอกยุทธ”
ขณะที่นายวัชระ เพชรทอง อดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ได้ยื่นหนังสือถึง พล.อ.ประยุทธ์ขอให้รื้อฟื้นคดีฆาตกรรมนายเอกยุทธ อัญชันบุตร เพื่อประโยชน์แห่งรัฐและการบังคับใช้กฎหมายที่เที่ยงตรง โดยให้หน่วยงานราชการอื่นที่ไม่ใช่สำนักงานตำรวจแห่งชาติดำเนินการสอบสวนเพิ่มเติม หาผู้กระทำผิดที่แท้จริงและผู้ว่าจ้างตามกฎหมาย และขอให้ดำเนินการทางวินัยและพิจารณาความเหมาะสมในการปฏิบัติหน้าที่ของนายจำลอง สิงห์โตงาม ผอ.สถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย หลังมีคำสั่งให้ น.ส.เจริญศรี หงส์ประสงค์ ผอ.ส่วนผลิตข่าวและรายการข่าว สถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย ยุติปฏิบัติหน้าที่ หลังนำเสนอข่าวของตน จึงขอให้พิจารณาความเหมาะสมในการทำหน้าที่ของนายจำลอง รวมไปถึงนายอภินันท์ จันทรังษี อธิบดีกรมประชาสัมพันธ์ ในฐานะผู้กำกับรับผิดชอบ
“จเร” สั่งเด้ง ขรก.สาย “สุวิจักขณ์”
ผู้สื่อข่าวรายงานจากรัฐสภาว่า นายจเร พันธุ์เปรื่อง รองเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร รักษาราชการแทนเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร มีคำสั่งสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ที่ 1184/2557 ย้ายและแต่งตั้งข้าราชการรัฐสภาสามัญ 16 ราย อาทิ น.ส.สุนทร รักเมือง ผอ.สำนักการคลังและงบประมาณ ไปเป็นผู้ตรวจราชการ นางพรรษมนต์ ไทยวัฒนานุกูล ผู้ตรวจราชการ ไปเป็น ผอ.สำนักการคลังและงบประมาณ นายอภิชาติ คำทอง ผู้ตรวจราชการ ไปเป็น ผอ.สำนักพัฒนาบุคลากร นางบังอร มาลาศรี ผอ.สำนักพัฒนาบุคลากร ไปเป็นผู้ตรวจราชการ นายประวิช ตั้งใจมั่น ผู้ตรวจราชการไปเป็น ผอ.สำนักประชาสัมพันธ์ น.ส.กัลยรัชต์ ขาวสำอางค์ ผอ.สำนักประชาสัมพันธ์ ไปเป็นผู้ตรวจราชการ ซึ่งเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ว่าเป็นการย้ายล้างบางข้าราชการที่เติบโตมาในยุคนายสุวิจักขณ์ นาควัชระชัย เป็นเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร แต่ขณะนี้ถูกคำสั่ง คสช.ให้ไปปฏิบัติงานสำนักนายกฯ
นายจเรกล่าวว่า การแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการครั้งนี้เป็นการแต่งตั้งเพื่อความเหมาะสมในการปฏิบัติหน้าที่ไม่ใช่การลงโทษ เป็นการย้ายออกจากหน้าที่ที่เคยรับผิดชอบ โดยเฉพาะโครงการต่างๆ ที่มีการร้องเรียน ซึ่งจะมีการตรวจสอบต่อไป และอาจมีการตั้งคณะกรรมการขึ้นมาตรวจสอบด้วย
ย้ายด่วน ผบก.ภ.จ.นครศรี-ผกก.เมือง
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า พล.ต.ท.ปัญญา มาเม่น ผบช.ภ.8 ลงนามคำสั่ง ตร.ภ.8 ที่ 324/2557 ลงวันที่ 19 มิ.ย.2557 ให้ พล.ต.ต.พชร บุญญสิทธิ์ ผบก.ภ.จ.นครศรีธรรมราช มาปฏิบัติราชการที่ ตร.ภ.8 โดยให้ขาดจากการปฏิบัติหน้าที่ทางตำแหน่งเดิม และลงนามคำสั่ง ตร.ภ.8 ที่ 326/2557 ให้ พ.ต.อ.สมพงศ์ ทิพย์อาภากุล ผกก.สภ.เมืองนครศรีธรรมราช ปฏิบัติราชการที่ ตร.ภ.8 โดยให้ พ.ต.อ.ภูดิศ นรสิงห์ รอง ผบก.ภ.จ.นครศรีธรรมราช รักษาราชการแทน ตั้งแต่วันที่มีคำสั่งเป็นต้นไปจนกว่าจะมีคำสั่งเปลี่ยนแปลง ด้าน พ.ต.อ.สมพงศ์กล่าวว่า ไม่รู้สาเหตุที่ถูกย้าย เมื่อผู้บังคับบัญชามีคำสั่งก็พร้อมปฏิบัติตาม
สำหรับคำสั่งย้ายด่วนนายตำรวจทั้งสองนาย เป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ว่าสาเหตุน่าจะมาจากตำรวจทั้ง 2 นายมีความใกล้ชิดกับนักการเมืองพรรคเพื่อไทย โดยเฉพาะ พล.ต.ต.พชรที่สนิทสนมกับนักการเมืองฝั่งพรรคเพื่อไทยมานานแล้ว ส่วนการสั่งย้าย พ.ต.อ.สมพงศ์ หลายคนยังงุนงงเพราะยังไม่มีความชัดเจนว่าสนิทกับนักการเมืองพรรคเพื่อไทย แต่อาจเป็นผลจากการนำทหารเข้าทลายบ่อนไก่ผู้มีอิทธิพลคนหนึ่ง หรือกรณีสั่งตำรวจปิดล้อมตรวจค้นอาวุธปืนในสำนักงาน อบจ.นครศรีธรรมราชก็เป็นได้
อสมทแต่งดำต้านรักษาการบอร์ด
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังการลาออกของบอร์ดอสมท ที่ได้รับการแต่งตั้งสมัยรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกฯ และมีการตั้งนางกมลาสิริ อิศรางกูร ณ อยุธยา ขึ้นมารักษาการกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บมจ.อสมท ล่าสุดพนักงาน อสมทจำนวนมากพร้อมใจกันใส่ชุดสีดำ เพื่อคัดค้านมติบอร์ดในการตั้งรักษาการ นอกจากนี้ ประชาคม mcot และสหภาพแรงงาน อสมท ได้พบและหารือกับพนักงาน ได้ข้อสรุปฉันทมติของพนักงาน คือจะทำหนังสือขอให้บอร์ดที่เหลือทยอยลาออกตามมารยาทเมื่อเปลี่ยนรัฐบาล พร้อมเสนอตัวเป็นองค์กรแรกให้ คสช.ตรวจสอบเรื่องทุจริต ตามนโยบาย คสช. สั่งหน่วยงานรัฐทำแผนป้องกันทุจริต โดยวันที่ 20 มิ.ย.จะไปยื่นหนังสือให้ พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง ผบ.ทอ.รองหัวหน้า คสช.ในฐานะกำกับดูแลรัฐวิสาหกิจ ที่ บก.ทบ.และเวลา 10.00 น. จะไปยื่นให้ ม.ล.ปนัดดา ดิศกุล รองปลัดกระทรวงมหาดไทย ปฏิบัติหน้าที่ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีต่อไป
โพลหนุนนายกฯมาจากเลือกตั้ง
วันเดียวกัน “นิด้าโพล” เปิดเผยผลสำรวจความคิดเห็นประชาชน เรื่อง “คสช.กับการปฏิรูปการเมือง” จากประชาชนทั่วประเทศ 1,253 ตัวอย่าง จากผลการสำรวจความคิดเห็นเกี่ยวกับการเร่งดำเนินการปฏิรูปการเมืองในด้านต่างๆ ของ คสช.พบว่าร้อยละ 23.43 ระบุว่า ควรปฏิรูประบบการป้องกันและปราบปรามการทุจริตคอร์รัปชันของนักการเมืองและข้าราชการ รองลงมาร้อยละ 20.24 ควรแก้ไขปัญหาพฤติกรรมนักการเมือง ร้อยละ 17.63 ควรแก้ไขปัญหาการซื้อสิทธิขายเสียง ร้อยละ 16.36 ควรปฏิรูประบบการเลือกตั้ง เมื่อถามถึงความคิดเห็นเกี่ยวกับคุณสมบัติและที่มาของนายกรัฐมนตรี พบว่า ส่วนใหญ่ร้อยละ 77.57 ระบุว่า นายกฯควรมาจากการเลือกตั้งโดยตรงจากประชาชน แต่ความเห็นเกินครึ่ง หรือร้อยละ 54.27 เห็นว่า ส.ส.ไม่จำเป็นต้องสังกัดพรรคการเมือง ขณะที่ ร้อยละ 40.86 ระบุว่า จำเป็นต้องสังกัดพรรคการเมือง
สั่งกลุ่มจังหวัดจัดทำแผนงบฯปี 58
ต่อมาเวลา 20.40 น. คสช.มีประกาศฉบับที่ 69/2557 เรื่องการยื่นคำของบประมาณจังหวัดและงบประมาณกลุ่มจังหวัด ประจำปีงบประมาณ 2558 โดยสั่งการให้แต่ละกลุ่มจังหวัดจัดทำแผนงบประมาณปี 2558 โดยให้สอดคล้องตามแผนพัฒนาจังหวัด จากนั้นให้เสนอสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ ส่งให้สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ร่วมพิจารณากลั่นกรองแผน และให้ดำเนินการส่งให้หัวหน้า คสช. พิจารณาให้ความเห็นชอบ เมื่อให้ความเห็นชอบแผนดังกล่าวแล้ว ให้ส่งแผนดังกล่าวต่อสำนักงบประมาณ เพื่อดำเนินการจัดสรรงบประมาณ ตามกฎหมายว่าด้วยวิธีการงบประมาณ